โควิด-19 : การหยุดยิงทั่วโลกอาจพลิกสถานการณ์ของเด็ก 250 ล้านคน ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง
โควิด-19 : การหยุดยิงทั่วโลกอาจพลิกสถานการณ์ของเด็ก 250 ล้านคน ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง
โควิด-19 : การหยุดยิงทั่วโลกอาจพลิกสถานการณ์ของเด็ก 250 ล้านคน ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง นิวยอร์ก, 17 เมษายน 2563 “ทุกวันนี้ มีเด็ก 250 ล้านคนทั่วโลกอาศัยอยู่ในพื้นที่ความขัดแย้ง เด็กๆเหล่านี้ต้องการให้ฝ่ายที่กำลังทำสงครามกันรับฟังเสียงเรียกร้องของเลขาธิการสหประชาชาติในการวางอาวุธของตน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการให้ทั่วโลกหยุดสู่รบเพื่อเผชิญหน้ากับการระบาดของ COVID-19 เพื่อให้เด็กทุกคนต้องปลอดภัยจากความรุนแรงในที่สุด ฝ่ายที่มีความขัดแย้งจะไม่สามารถต่อสู้กับ COVID-19 หากยังคงสู้รบกันเอง สำหรับเด็กๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่กับฝันร้าย การหยุดยิงอาจหมายถึงความแตกต่างระหว่างชีวิตกับความตาย แต่เพียงแค่ไม่ถึงหนึ่งเดือนหลังจากการเรียกร้องของเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ความขัดแย้งที่รุนแรงยังคงดำเนินต่อไปในบางพื้นที่ของอัฟกานิสถาน บูร์กินาฟาโซ ลิเบีย มาลี ซีเรีย ยูเครนและเยเมน การหยุดยิงทั่วโลกจะคุ้มครองเด็ก ๆ จากการถูกฆ่า ทำให้พิการ หรือถูกบีบบังคับจากบ้านของพวกเขาเนื่องจากความขัดแย้ง ซึ่งจะทำให้โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ศูนย์สุขภาพ น้ำ และสุขาภิบาล ไม่ถูกโจมตี และจะเป็นการเปิดพื้นที่ให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงสามารถเข้าถึงบริการที่จำเป็น เช่น การบริการทางสาธารณสุข ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการยับยั้งการระบาดของครั้งใหญ่ของเชื้อไวรัส และ สร้างโอกาสการมีส่วนร่วมกับฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในความขัดแย้ง เพื่อให้เด็ก ๆ ปลอดภัยจาก กลุ่มติดอาวุธและพวก มีการพัฒนาเชิงบวกบางอย่างกับฝ่ายต่าง ๆ ที่ขัดแย้งกันใน 11 ประเทศที่มีความมุ่งมั่นที่จะยุติสงครามในระหว่างการระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อไวรัส อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งที่ต้องทำเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญสำหรับเด็ก ๆ ประการแรก ทุกฝ่ายที่มีความขัดแย้งควรดำเนินการให้มีข้อตกลงหยุดยิง และเคารพช่วงเวลาที่มีข้อตกลง ประการที่สอง หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมดินแดนอาณาเขตควรอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงบุคลากรด้านมนุษยธรรมเพื่อให้เราสามารถเข้าถึงเด็กและครอบครัวด้วยบริการที่จำเป็น รวมถึงอาหาร สาธารณสุข การคุ้มครอง น้ำและการสุขาภิบาล ซึ่งสามารถใช้ในการซ่อมแซมหรือฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่อาจได้รับผลกระทบจากการต่อสู้เพื่อให้ประชาชนได้รับการปกป้องที่ดีขึ้นจากการแพร่กระจายของ COVID-19 ประการที่สาม กลุ่มติดอาวุธและพวก จะต้องไม่ขัดขวางการส่งเสบียงบรรเทาทุกข์หรือป้องกันไม่ให้ประชาชนได้รับบริการ พลเรือนทุกคนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลหรือกลุ่มต่อต้านต้องได้รับอนุญาตให้รับความช่วยเหลือที่สำคัญต่อการอยู่รอดและคุณภาพชีวิตที่ดีของพวกเขา ประการที่สี่ ฝ่ายที่มีความขัดแย้งควรปล่อยตัวเด็กที่ถูกคุมขังอันเนื่องมาจากความขัดแย้งหรือ ความมั่นคงของชาติ และกลุ่มติดอาวุธและพวกก็ควรปล่อยเด็ก ๆ ออกจากการจับกุมเช่นเดียวกัน องค์การยูนิเซฟมีความพร้อมที่จะช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เพื่อเตรียมการปลดปล่อยเด็กๆภายใต้เงื่อนไข ที่ปลอดภัย ในขณะเดียวกัน ขณะที่การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป COVID-19 ก็กำลังเคลื่อนตัวไปหาเด็ก ๆ ที่อ่อนแอและประชาชนที่กำลังตกอยู่ในสภาวะยากลำบากอย่างเงียบๆ เช่นเดียวกัน การหยุดยิงทั่วโลกจะเป็นแบบอย่างของความร่วมมือและความเป็นปึกแผ่นในการผลักดันการต่อสู้กับ COVID-19 ซึ่งเป็นการระบาดครั้งใหญ่ที่คุกคามมนุษย์ทุกคนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง การหยุดยิงไม่เพียงเพิ่มโอกาสในการเอาชนะโรคในระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังสามารถวางรากฐานเพื่อความสงบสุขที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กและอนาคตของพวกเขา.