น้ำประปาของกรุงโซลปราศจากโรคโควิด-19 หรือไม่
กรุงโซลได้ออกมาประกาศว่า ประชาชนสามารถดื่มน้ำประปาในกรุงโซลได้อย่างปลอดภัย
น้ำประปาของกรุงโซลปราศจากโรคโควิด-19 หรือไม่ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (COVID-19) ที่มีการยืนยันจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั่วโลก เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมากรุงโซลได้ออกมาประกาศว่า ประชาชนสามารถดื่มน้ำประปาในกรุงโซลได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากน้ำที่ใช้อุปโภคและบริโภคในกิจวัตรประจำวันนั้นได้ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อโรคทำให้เชื้อไวรัสที่อยู่ในน้ำได้ถูกกำจัดให้หมดไปแล้ว จากผลการศึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (The US Centers for Disease Control) และองค์การอนามัยโลก (The World Health Organization) ระบุว่า การติดเชื้อโควิด-19 ที่มีน้ำเป็นพาหะเป็นไปได้ยาก และการฆ่าเชื้อไวรัสด้วยคลอรีนนั้นง่ายกว่าการฆ่าเชื้อไวรัสชนิดอื่น ๆ ที่มีน้ำเป็นพาหะเสียอีก ดังนั้น จึงเป็นที่รู้กันดีว่าระบบผลิตน้ำประปาที่มีอยู่สามารถกำจัดเชื้อโรคโดวิด-19 ได้ น้ำประปากรุงโซลมีแหล่งที่มาจากแม่น้ำฮัน ซึ่งในขั้นตอนแรกจะผ่านกระบวนการกรองให้ใสด้วยสารเคมีที่ใช้สำหรับกรองน้ำ ตามด้วยกระบวนการกรองน้ำขั้นสูงโดยการใช้ก๊าซโอโซนและถ่านกัมมันต์ชนิดเม็ด (Granular Activated Carbon) จากนั้นนำไปผสมกับคลอรีนในสัดส่วนที่เหมาะสม กระบวนการนี้สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้มากกว่าร้อยละ 99.99 และน้ำประปาที่ได้จะผ่าน “มาตรฐานการผลิตน้ำประปา” ตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ การผสมคลอรีนเพื่อกำจัดจุลินทรีย์ในการผลิตน้ำประปาขั้นตอนสุดท้ายเป็นการยืนยันว่าน้ำประปาปราศจากเชื้อไวรัสอย่างสิ้นเชิง สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างปลอดภัย มาตรฐานการผลิตน้ำประปาที่ใช้ในกรุงโซลมีความเข้มงวดกว่าข้อบังคับตามกฎหมายที่ใช้ในระดับประเทศ ดังนั้นกรุงโซลจึงสามารถผลิตน้ำประปาที่มีการยืนยันความปลอดภัยจากเชื้อไวรัสและโรคติดต่อที่มีน้ำเป็นพาหะที่ดีกว่า อีกทั้ง ไม่จำเป็นต้องต้มน้ำให้สุกก่อนดื่ม และยังสามารถดื่มได้ทุกที่ทุกเวลาอีกด้วย นอกจากนี้ สถาบันวิจัยน้ำประปา (Waterworks Research Institute) ในกรุงโซลซึ่งผ่านการรับรองจากรัฐบาลให้เป็นสถานที่ตรวจสอบหาเชื้อไวรัส มีการดำเนินการทดสอบหาเชื้อไวรัสที่มีน้ำเป็นพาหะทุก ๆ ทุก 3 เดือน ทั้งในแหล่งผลิตน้ำประปาและน้ำประปา (น้ำที่ผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์แล้ว) จากศูนย์ผลิตน้ำประปาอะริสุทั้ง 6 แห่ง ซึ่งในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมานี้ยังไม่มีรายงานการตรวจพบเชื้อไวรัสในน้ำประปาดังกล่าว ในปัจจุบันศูนย์ผลิตน้ำประปาอะริสุทั้ง 6 แห่ง ในกรุงโซลได้ใช้เครื่องมือตรวจวัดคุณภาพน้ำตามเวลาจริง (real-time) อย่างต่อเนื่อง ในขั้นตอนการกรอง (ความขุ่น) และการฆ่าเชื้อโรค (คลอรีนคงเหลือ) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการปฏิบัติงานเป็นไปตามมาตรฐานน้ำประปาปลอดเชื้อไวรัส เพื่อการบริการน้ำประปาที่ปลอดภัย