เมืองปอร์โตอนุมัติเงินแสนยูโรสำหรับโรงพยาบาลและอีกหมื่นยูโรสำหรับโรงเรียนในโมซัมบิก
นายกเทศมนตรีเมืองปอร์โตกล่าวว่า หอการค้าเมืองปอร์โตมีมติเป็นเอกฉันท์ในการอนุมัติ “ชุดปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือหลังภัยพิบัติ” และเงินเป็นจำนวน 100,000 ยูโรให้แก่โรงพยาบาลในเมืองเบย์รา ประเทศโมซัมบิก รวมถึงมอบเงินให้แก่โรงเรียนสอนภาษาโปรตุเกสที่ประสบภัยเป็นเงิน 10,000 ยูโร นายรุย โมเรรา นายกเทศมนตรีเมืองปอร์โต กล่าวในที่ประชุมผู้บริหารว่า “หลังจากที่ข้อเสนอ (เกี่ยวกับการส่งอุปกรณ์และเงินช่วยเหลือในการซ่อมแซมโรงพยาบาล) ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว เราได้รับการติดต่อมาจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการชุมชนเพื่อสอบถามว่าหอการค้าเมืองปอร์โตจะสามารถประสานกับสถาบัน Camões อย่างไร เพื่อเป็นการประกันการว่าจะมีการเข้าไปช่วยเหลืออย่างรวดเร็วในโรงเรียนสอนภาษาโปรตุเกสที่ตั้งอยู่ในเมืองเบย์รา ซึ่งเราได้ยืนยันตอบรับในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือ โดยเมืองปอร์โตจะสนับสนุนเป็นเงินจำนวน 10,000 ยูโร” นายกเทศมนตรีฯ ยังได้กล่าวถึงการ “ประชุมกับกงสุลใหญ่โมซัมบิก” ซึ่งเป็นบุคคลที่นายโมเรราตั้งใจประสานงานด้วย “ในอนาคต” โดยเป็น“การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องขึ้นไปกว่าเดิม” ในรูปแบบ “การอุปถัมภ์” จากการที่เมืองปอร์โตได้ดำเนินความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องกับเมืองเบย์ราซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนอิได นายโมเรรากล่าวว่า “ในอนาคตเมืองปอร์โตควรจัดหาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะศูนย์สุขภาพและโรงเรียนซึ่งเมืองปอร์โตจะสามารถเป็นผู้อุปถัมภ์ได้ ผมได้กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือที่ต่อเนื่องให้มากขึ้นสำหรับเมืองพี่เมืองน้อง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าพวกเราจะไม่ทอดทิ้งซึ่งกันและกันในยามลำบาก” ในการนี้ นายอัลบาโร อัลเมดา ส.ส. จากพรรคสังคมประชาธิปไตย กล่าวว่า เมืองปอร์โตควรดำเนินการสนับสนุนโรงพยาบาลต่อไป เนื่องจากจำเป็นต้องได้รับการบูรณะอย่างเร่งด่วน ทว่า นายโมเรรา ไม่ได้มองข้ามข้อสมมติฐานดังกล่าว แต่พิจารณาแล้วเห็นว่านี่เป็นคำถามสำหรับ น “โอกาสอื่นที่เหมาะสม” โดยกล่าวว่า “ในขณะนี้ โรงพยาบาลต้องการทรัพยากรอย่างเร่งด่วน เพราะว่าที่มีอยู่ไม่สามารถใช้การได้” หอการค้าเมืองปอร์โตเปิดเผยว่า เมื่อวันพุธที่ 27 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ถึงความตั้งใจของเมืองปอร์โตที่จะส่ง “ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัย” และเงินจำนวน 100,000 ยูโร เพื่อ “ช่วยเหลือฟื้นฟูโรงพยาบาลที่”ให้เป็นไปตาม “ความต้องการ” ที่หน่วยงานทั้งที่เป็นของรัฐและไม่ใช่ของรัฐได้ระบุไว้ ซึ่งทางเทศบาลเมืองปอร์โตได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตอนนี้กำลังประสานงานกับสมาคมโมซัมบิค-โปรตุเกสถึงการสนับสนุนในรูปแบบอื่น” โดยไม่ได้ระบุชัดเจน หอการค้าปอร์โต้ชี้แจงว่า “ภายหลังช่วงฉุกเฉิน ซึ่งช่วงฉุกเฉินยังคงดำเนินมาถึงปัจจุบัน จะมีการระบุยอดความต้องการ” เกี่ยวกับทีมที่จะจัดส่งไปช่วยเหลือยังโมซัมบิก “หลังจากมหันตภัยในครั้งนี้ เทศบาลเมืองปอร์โตจึงจะสามารถส่งทีมช่วยเหลือในสาขาต่างๆ ไปยังเมืองเบย์ราได้นั้น ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความต้องการที่ได้มีการรายงานไว้”พายุไซโคลนอิไดพัดผ่านประเทศโมซัมบิก ซิมบับเว และมาลาวี ตามรายงานยอดอย่างเป็นทางการฉบับล่าสุด มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 761 ศพ โดยในประเทศโมซัมบิก ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วพุ่งสูงถึง 446 ศพ ในประเทศซิมบับเว 259 ศพ และในประเทศมาลาวี 56 ศพ ทางด้านนายเซลโซ คอร์เรีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่ดินและสิ่งแวดล้อมแห่งโมซัมบิก เน้นย้ำว่าตัวเลขดังกล่าวยังเป็นจำนวนที่ไม่แน่นอน เนื่องจากหากระดับน้ำลดลง อาจจะมีการค้นพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก ทางด้านองค์การอนามัยโลก ได้ประกาศว่า ขณะนี้กำลังเร่งเตรียมการรับมือกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคที่อาจเกิดขึ้นของอหิวาตกโรค และโรคติดเชื้ออื่นๆ รวมถึงโรคหัด ในหลายพื้นที่ของแอฟริกาตะวันตกเฉียงใต้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนอิได โดยเฉพาะในประเทศโมซัมบิก ตามประมาณการขององค์กรระหว่างประเทศหลายแห่งพบว่า พายุไซโคลนอิไดได้ส่งผลกระทบต่อผู้คนไปแล้วกว่า 2.8 ล้านคน ใน 3 ประเทศของทวีปแอฟริกา และในพื้นที่ลุ่มของโมซัมบิก ราว 1,300 ตารางกิโลเมตร โดยเมืองเบย์ราซึ่งตั้งอยู่ชายฝั่งตอนกลางของประเทศโมซัมบิก เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากพายุไซโคลนอิได เมื่อคืนวันที่ 14 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา