การประชุมเกาหลีเหนือ-สหรัฐฯ ณ กรุงฮานอย สร้างโอกาสทองแก่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
การประชุมเกาหลีเหนือ-สหรัฐฯ ณ กรุงฮานอย สร้างโอกาสทองแก่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ กรุงฮานอยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณเรือนรับรองแขกของรัฐบาล และโรงแรมโซฟิเทล เลเจนด์ เมโทรโพล ฮานอย ที่กำหนดให้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมการประชุม การประชุมสุดยอดทรัมพ์-คิม เปิดประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหน้าใหม่ขึ้น หลังจากข้อตกลงความครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนการค้าภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก (CPTPP) ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามและสหภาพยุโรป ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในช่วงต้นปีเช่นกัน สื่อต่างประเทศยกย่องให้เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุด ด้วยมูลค่า 35,500 ล้านดอลลาร์ ในปี 2561 โดยมีมูลค่าที่ดำเนินการแล้ว 19,100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปีที่ผ่านมา ฮานอยสามารถดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ 7.5 พันล้าน คิดเป็นร้อยละ 21.2 และเป็นอันดับ 1 ของประเทศ กรุงฮานอยนำเสนอจุดเด่น ศักยภาพ โอกาสและนโยบายการลงทุนต่อนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ รัฐบาลกรุงฮานอยจัดงานเจรจาธุรกิจร่วมกับนักลงทุน ที่ปรึกษาทางการค้า และสมาคมนักธุรกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงสามปีที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในฮานอยด้วยมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านดอลลาร์ มากกว่าช่วงปี 2554 - 2558 ถึง 2.3 เท่า ฮานอยกลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว การค้า และเศรษฐกิจ ของประเทศ รวมถึงของภูมิภาค การประชุมสุดยอดเกาหลีเหนือ-สหรัฐฯ จึงเป็นโอกาสทองในการนำเสนอเมืองต่อนักลงทุนชาวต่างชาติ“การประชุมนี้จะช่วยเวียดนามพัฒนาสถานะในระดับนานาชาติและกลายเป็นตัวแปรสำคัญในภูมิภาค สำหรับฮานอยแล้ว นี่เป็นโอกาสดึงดูดความสนใจชาวโลกให้มองเห็นนครหลวงแห่งนี้ทุกซอกทุกมุม ทั้งการจราจร มรดกทางประวัติศาสตร์ และตัวตนของเมืองนี้” นายฮิม โอฮยอน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศเวียดนามกล่าวสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะบริษัทสัญชาติเกาหลี ต่างกระตือร้อร้นแสวงหาโอกาสและห่วงโซ่อุปทานในฮานอย เอกอัครราชทูตฯ กล่าว นายเหวียน ดุ๊ก จุง ประธานคณะกรรมการประชาชนกรุงฮานอย กล่าวว่า “ชุมชนนักธุรกิจเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการพัฒนาเมือง”กรุงฮานอยให้ความสำคัญกับโครงการที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะโครงการเทคโนโลยีชั้นสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงโครงการที่มีมูลค่าเพิ่มและมีการแข่งขันสูง โดยบริษัทขนาดใหญ่จากสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ประเทศญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี จะเป็นเป้าหมายหลักในการดึงดูดเข้ามาลงทุน
