ข้อมูลการปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practice) ของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา
การฟื้นฟูแม่น้ำอนาคอสเทีย
กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. คือเมืองริมฝั่งแม่น้ำ
จากการที่แม่น้ำสองสาย ได้แก่ แม่น้ำโพโทแม็คและแม่น้ำอนาคอสเทียไหลมาบรรจบกัน จึงทำให้เขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย (เขตดี.ซี.) มีพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำระยะทางยาวถึง ๔๗ ไมล์ ด้วยในขณะนี้ เขตดี.ซี.มีการฟื้นฟูอัตลักษณ์ในฐานะเมืองริมฝั่งแม่น้ำอย่างสมบูรณ์ รายงานความคืบหน้าฉบับนี้จึงถือเป็น การเฉลิมฉลองการฟื้นฟูแม่น้ำอนาคอสเทีย ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการปรับภูมิทัศน์ของเขตดี.ซี. ที่นำไปสู่การ เป็นเมืองริมฝั่งแม่น้ำ
แม่น้ำอนาคอสเทียและพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำละแวกใกล้เคียงในปัจจุบันมีสภาพที่ตรงข้ามกัน อย่างสิ้นเชิงกับความท้าทายในปี ๒๕๔๖ ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความลึกซึ้งของพันธสัญญา ความรับผิดชอบ ในการบริการพิทักษ์รักษาและการลงทุน ตลอดระยะเวลาสิบห้าปีที่ผ่านมา แม่น้ำสายนี้ถูกทำให้หมองมัวด้วยมลภาวะจากการปล่อยน้ำเสียที่ไม่ได้รับการบำบัด ขยะ การทับถมของตะกอน น้ำฝนที่ไม่ผ่านการบำบัด ปุ๋ย และอื่น ๆ อีกมากมาย บริเวณริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียมีการสร้างกำแพงเทียมอันเป็นการกีดขวาง การเจริญเติบโตของระบบนิเวศน์วิทยาทางธรรมชาติที่ช่วยให้แม่น้ำคงสภาพที่สมบูรณ์และค้ำจุนชีวิตสัตว์ป่า ให้ดำรงอยู่ได้ในขณะที่แม่น้ำสายนี้ขึ้นชื่อว่าไหลผ่านพื้นที่ป่าของกรมอุทยานแห่งชาติ (National Park Service) เป็นระยะทางหลายไมล์ก็ยังมีแนวเขตพื้นที่ใช้สอยทางอุตสาหกรรม เช่น ลานเศษเหล็ก โรงโม่หิน สาธารณูปโภคต่าง ๆ และค่ายทหาร พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำดังกล่าวเข้าถึงได้ยากหรือไม่สามารถเข้ามาได้เลย จากชุมชนใกล้เคียง ผู้อยู่อาศัยของเขตดี.ซี. ส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าใกล้แม่น้ำได้เลยซึ่งหมายถึงพื้นที่นี้เท่ากับเป็นสถานที่ถูกทิ้งร้างหรือสถานที่เสื่อมโทรมในเขตเมืองไปแล้ว หากการฟื้นฟูด้านสิ่งแวดล้อมของแม่น้ำสายนี้ดูเหมือนเป็นเรื่องเพ้อฝันความเป็นไปได้ในการพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยที่ดึงดูดใจริมฝั่งแม่น้ำก็ยากเกินจินตนาการไม่แตกต่างกัน ในขณะเดียวกันโครงสร้างการถือครองกรรมสิทธิ์ที่ซับซ้อนยังคงอยู่ที่ตัวของแม่น้ำเอง (ทั้งน้ำและเส้นทางที่น้ำไหลผ่าน) และที่ดินริมฝั่งแม่น้ำต่างมีการแยกกันถือครองทั้งหน่วยงานของรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นและเจ้าของที่ดินเอกชนหลายแห่ง ซึ่งแม่น้ำและสันปันน้ำต่างอยู่ทั้งในเขตปริ๊นซ์จอร์จและเขตมอนตโกเมอรี่ของมลรัฐแมริแลนด์ ถึงแม้จะมีอุปสรรคต่าง ๆ ดังกล่าว แต่ภาวะผู้นำที่มั่นคง การลงทุนจากภาครัฐ จากองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรและจากภาคเอกชนที่มีบทบาทสำคัญ รวมถึงการให้คำปรึกษาจากชุมชนก็ทำให้แม่น้ำอนาคอสเทียกลับฟื้นคืนให้มีความอุดมสมบูรณ์ได้
ครั้งหนึ่ง จากการที่เคยเป็นเส้นแบ่งที่ถูกลืมและเป็นมลพิษ ปัจจุบันแม่น้ำอนาคอสเทียที่ทอดผ่านเขตดี.ซี. ที่มีระยะทางยาวแปดไมล์และช่องแคบวอชิงตันก็ได้ปลดล็อกประโยชน์ด้านสังคม สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ พื้นที่ดังกล่าวได้เรียงร้อยผ่านเขต ๕, ๖, ๗ และ ๘ และได้ทอดยาวจากอ่างเก็บน้ำไทดอลเบซิน (Tidal Basin) ถึงบริเวณพรมแดนด้านตะวันออกเฉียงเหนือของมลรัฐแมริแลนด์ซึ่งพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย ได้กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้นและเปิดสัมผัสประสบการณ์ในฐานะจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ บ้านศูนย์กลางการจ้างงาน การฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมแห่งใหม่และมีการพัฒนาปรับปรุงการเข้าถึงพื้นที่แม่น้ำของประชาชนผู้อยู่อาศัยให้เพิ่มมากขึ้น
ในปี ๒๕๔๖ แผนกรอบการดำเนินงานพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียได้กำหนดวาระเชิงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นเพื่อการฟื้นฟูพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลกและศูนย์กลางของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในศตวรรษที่ ๒๑ โดยเมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๔๓ หน่วยงานรัฐบาลกลางและเขตดี.ซี. รวม ๑๙ หน่วยงานต่างเห็นพ้องร่วมกันในความพยายามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในการฟื้นฟูแม่น้ำอนาคอสเทีย พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ ชุมชนและสวนสาธารณะที่อยู่ติดกัน ผ่านโครงการแนวคิดริเริ่มเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย (Anacostia Waterfront Initiative: AWI) ซึ่งวิสัยทัศน์ของโครงการฯ ที่นำโดยนายแอนโทนีย์ วิลเลี่ยม นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นั้น ประกอบด้วยกลุ่มของเป้าหมายที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน สำนักงานการวางแผนของเขตดี.ซี. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของโครงการฯ และ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภาคประชาชนได้สร้างแผนกรอบการดำเนินงานพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย (แผนโครงการฯ: AWI Plan) เพื่อดำเนินวิสัยทัศน์ของ AWI และกำหนดแผนที่นำทางหรือกลยุทธ์ (Roadmap) เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ ริมแม่น้ำ โดยแผนโครงการฯ เน้นการดำเนินการในพื้นที่ขนาด ๙๐๐ เอเคอร์ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียที่มีระยะทางยาวแปดไมล์และช่องแคบวอชิงตัน ซึ่งในเวลานั้น ร้อยละ ๙๐ ของพื้นที่เป็นพื้นที่สาธารณะ ในส่วนของพื้นที่ศึกษาของโครงการฯ นั้น ได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่ที่สามารถใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาใหม่ได้ แผนโครงการฯ ได้สื่อให้เห็นภาพ “การปฏิรูปพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำตอนบนขนาด ๒,๐๐๐ เอเคอร์ที่ถูกละเลยและใช้ประโยชน์อย่างไม่ถูกต้องมาเป็นเวลานานสู่การเป็นต้นแบบวิถีชีวิตเมืองในศตวรรษที่ ๒๑ ที่มีความแตกต่างทางสังคม ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจสู่คนในรุ่นอนาคต”
แผนโครงการฯ เริ่มดำเนินการปฏิรูป ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ชุมชนใกล้เคียงแบบรายได้ผสมผสานแห่งใหม่ การฟื้นฟูด้านสิ่งแวดล้อม โครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งการเข้าถึงของประชาชนที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุง สวนสาธารณะที่เชื่อมโยงกันแห่งใหม่และจุดหมายปลายทางด้านวัฒนธรรม การฟื้นฟูพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียเป็นเรื่องราวความสำเร็จที่มีการแบ่งปันในแง่ของการวางแผนวิสัยทัศน์การลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ทั้งภาครัฐบาลและเอกชน และความเป็นหุ้นส่วนภาคชุมชนที่ได้กระตุ้นให้เกิดการปฏิรูปพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำที่น่าตื่นเต้นที่สุดครั้งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา โดยในปี ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นปีที่ครบรอบปีที่ ๑๕ ของแผนโครงการฯ การเปลี่ยนแปลงพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียให้กลับสู่สภาพเดิมเป็นต้นแบบระดับประเทศสำหรับแม่น้ำสายต่าง ๆ ในเขตเมือง ทั้งในเรื่องของการฟื้นฟูด้านสิ่งแวดล้อม การเข้าถึงพื้นที่ของประชาชน การพัฒนาเศรษฐกิจและการเจริญเติบโตอย่างครอบคลุม
พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำที่ได้รับการฟื้นฟูนั้น ที่ผ่านมาโดยตลอดเป็นเรื่องของการพิทักษ์รักษาร่วมกันและกลุ่มประชากรในเขตดี.ซี. ก็มีความเข้มแข็งและเติบโตขึ้น เมื่ออดีตนายกเทศมนตรีแอนโทนีย์ วิลเลี่ยมส์ สมาชิกวุฒิสภานางเอลินอร์ โฮล์มส์ นอร์ตัน และนักต่อสู้ท่านอื่น ๆ ได้ยกเอาแม่น้ำอนาคอสเทียขึ้นมาเป็นเรื่องที่มีความสำคัญในลำดับแรก ๆ ในระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็มีองค์การที่ไม่หวังผลกำไร กลุ่มชุมชนและมูลนิธิหลายแห่งเริ่มปรากฎตัวขึ้นมาเรื่อย ๆ โดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมของแม่น้ำอนาคอสเทียรวมถึงการพัฒนาชุมชนในละแวกใกล้เคียงซึ่งอยู่ติดกันกับแม่น้ำอนาคอสเทีย ความสำเร็จอันมากมายของพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำในเขตดี.ซี. และการบัญญัติกฎหมายที่มีความก้าวหน้ามากขึ้นเป็นผลลัพธ์โดยตรงจากการปฏิบัติงานอย่างหนักของผู้ให้การสนับสนุนชุมชนและผู้พิทักษ์แม่น้ำที่อุทิศตนจำนวนมาก เขตที่เติบโตนี้จะช่วยคงความพยายามในการอนุรักษ์ที่เน้นชุมชนให้มุ่งหน้าสู่อนาคต
พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียได้เจริญเติบโตและรุ่งเรืองอันเป็นผลมาจากการรวมกลุ่มของพื้นที่ชุมชนใกล้เคียงทั้งใหม่และที่มีความเข้มแข็งมาแต่ดั้งเดิม โดยกำหนดให้เป็นสถานที่หลักในการรองรับการขยายตัวของประชากรเขตเมืองในด้านการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำ การเพิ่มสูงขึ้นของการพัฒนาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเป็นผลมาจากนโยบายเชิงแผนการที่ช่วยนำทางการลงทุนภาครัฐและการพัฒนาภาคเอกชนบริเวณริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณพื้นที่สาธารณะทิ้งร้าง พื้นที่ขนาดใหญ่และพื้นที่อุตสาหกรรมเดิม โดยการใช้ประโยชน์ให้เต็มที่จากศักยภาพในการเดินทางโดยรถไฟใต้ดินสายสีเขียว สีน้ำเงินและสีส้ม แผนโครงการฯ นี้ได้กำหนดวิสัยทัศน์เพื่อรองรับการเจริญเติบโตบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำในพื้นที่ใกล้เคียงที่มีชีวิตชีวาและความยั่งยืนซึ่งจะมีการเชื่อมโยงถึงกัน รวมถึงเชื่อมโยงกับพื้นที่ชุมชนใกล้เคียงอื่น ๆ ของเขตดี.ซี. และภูมิภาค แผนประมวลสรุปสำหรับเมืองหลวงแห่งชาติ: องค์ประกอบระดับเขต (Comprehensive Plan for the National Capital: District Elements) เป็นแผนที่นำเอาวิสัยทัศน์ นี้มาใช้ผ่านนโยบายที่ระบุถึงพื้นที่ชุมชนใกล้เคียงที่กระจัดกระจายบริเวณริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียให้เป็นพื้นที่ชุมชนใหม่หรือพื้นที่ชุมชนได้รับการปรับปรุงฟื้นฟู ประกอบด้วย ย่าน Southwest Waterfront, ย่าน Buzzard Point, อู่เรือ Navy Yard, ย่าน Hill East และพื้นที่ Poplar Point การเจริญเติบโตที่ได้วางแผนไว้นี้ มุ่งหวังให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกและการเข้าถึงพื้นที่ชุมชนที่มีอยู่เดิมให้มากยิ่งขึ้น เช่น พื้นที่ Historic Anacostia, พื้นที่ Kenilworth และพื้นที่ Capitol Hill การใช้ประโยชน์จากพื้นที่สาธารณะ ณ ย่าน Southwest Waterfront (The Wharf) และอู่เรือ Navy Yard (ย่านธุรกิจ Capitol Riverfront) ได้กระตุ้นให้เกิดการสร้างที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ จุดหมายปลายทางด้านวัฒนธรรม สิ่งอำนวยความสะดวกด้านสันทนาการศูนย์จัดหางาน และฟื้นฟูการเข้าถึงพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ โดยพื้นที่อู่เรือ Navy Yard ได้ปรากฏตัวขึ้นเป็นย่านชุมชนที่ที่มีการเจริญเติบโตเร็วที่สุดของเมือง โดยคาดว่าจะมีผู้อยู่อาศัยจำนวน ๑๓,๐๐๐ คน ภายในปี ค.ศ. ๒๐๒๐
เพื่อเป็นการปรับปรุงคุณภาพน้ำของแม่น้ำอนาคอสเทีย เขตดี.ซี. ได้ค้นหาแนวทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านการเยียวยารักษาสิ่งแวดล้อมและด้านความชอบด้วยกฎหมาย และส่งเสริมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับน้ำ และด้วยการนำเอามาตรการนิติบัญญัติหลายอย่างร่วมกัน โครงการฟื้นฟูและปรับแก้ไข และโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อย่างเช่น โครงการแม่น้ำสะอาดของเขตดี.ซี. มาใช้ ทำให้เขตดี.ซี. มีประสบการณ์ด้านการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมอย่างสำคัญ ซึ่งช่วยให้การลงทุนอื่น ๆ ทั้งหมดประสบความสำเร็จ แม่น้ำที่สะอาดเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับทางน้ำทั้งหมดและจำเป็นต่อความอยู่ดีกินดีของ ผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียง ตลอดจนความสมบูรณ์ของถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า แม่น้ำอนาคอสเทียกำลังไปได้ดียิ่งในเส้นทางสู่การเป็นแม่น้ำที่จะใช้ว่ายน้ำได้และทำการประมงได้ภายในปี ค.ศ. ๒๐๓๒ ตามที่ระบุในแผนโครงการฯ ความก้าวหน้าด้านสิ่งแวดล้อมขั้นต่อไปคือการทำให้แม่น้ำและชุมชนบริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำมีความยืดหยุ่นต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ประกอบด้วย อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นและหยาดน้ำฟ้าที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงมากยิ่งขึ้น
เป้าหมายของโครงการแนวคิดริเริ่มเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย
เป้าหมายเหล่านี้เดิมกำหนดไว้ในแผนกรอบการดำเนินงานพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย ค.ศ. ๒๐๐๓ และนำเสนอหลักการชี้นำเพื่อการตัดสินใจเชิงแผนการดังต่อไปนี้
- ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีผลกระทบต่ำต่อพื้นที่ชุมชนใกล้เคียงริมแม่น้ำ
- สร้างพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำที่มีชีวิตชีวาเพื่อการเป็นเมืองหลวงในระดับสากล
- กระตุ้นการพัฒนาทางเศรษฐกิจในพื้นที่ชุมชนใกล้เคียงโดยการสร้างงานและกิจกรรมเชิงพาณิชย์
- สร้างแผนการประสานงานเพื่อให้พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำสามารถดำเนินการไปได้เรื่อย ๆ ในระยะยาว
- ดึงให้ทุกภาคส่วนของชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในฐานะผู้พิทักษ์รักษาดูแลแม่น้ำและพื้นที่ริมแม่น้ำ
- ฟื้นฟูคุณภาพน้ำของแม่น้ำอนาคอสเทียและเสริมสร้างความงดงามตามธรรมชาติ
- จัดการกับความกังวลของชุมชน ซึ่งประกอบด้วย ผู้อยู่อาศัย เจ้าของทรัพย์สินและธุรกิจ และผู้มาเยือน
- พัฒนาเครือข่ายสวนสาธารณะสีเขียวที่โดดเด่น กิจกรรมทางน้ำที่หลากหลายและพื้นที่สาธารณะที่เป็นเอกลักษณ์
- ส่งเสริมความเป็นเลิศด้านการออกแบบในทุกมุมมองของความพยายาม
- เชื่อมโยงบริเวณใกล้เคียงริมฝั่งแม่น้ำเข้าด้วยกันและเชื่อมต่อชุมชนรายรอบโดยตรงกับแม่น้ำ
การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งช่วยให้เกิดจุดเชื่อมต่อริมฝั่งแม่น้ำ และเป็นหลักประกันว่าแม่น้ำอนาคอสเทียจะไม่เป็นสิ่งแบ่งแยกพื้นที่ชุมชนใกล้เคียงอีกต่อไป โครงการการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบที่มีความทันสมัยสูงสุดหลายโครงการช่วยส่งเสริมการเดินทางและการเข้าถึงของประชาชนสู่พื้นที่และตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำ เช่น สะพานอนุสรณ์เฟรเดอริค ดักลาส (Frederick Douglass Memorial Bridge) ที่มีแผนก่อสร้างไว้แล้ว เส้นทางเดินริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียระยะทางยางเกือบ ๒๐ ไมล์ ทางเลือกใหม่ ๆ เช่น บริการรถจักรยานสาธารณะ รถประจำทาง DC Circulator ของเขตดี.ซี. และรถราง และระบบถนนที่ได้รับการปรับปรุงที่แยกการจราจรระดับภูมิภาคออกจากถนนในพื้นที่ใกล้เคียง การฟื้นฟูถนนและการสร้างผังเมืองตารางแบบ L’Enfant grid ในอดีตขึ้นใหม่ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงพื้นที่ใกล้เคียงเข้าด้วยกัน เครือข่ายการขนส่งบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งรวมถึงบริการแท็กซี่ทางน้ำรูปแบบใหม่ก็มีความสำคัญเช่นกันในการเชื่อมโยงผู้อยู่อาศัยของเขตดี.ซี. ให้เข้าถึงงาน โรงเรียน สวนสาธารณะ และจุดหมายปลายทางด้านการพักผ่อนหย่อนใจและความบันเทิง
ประสบการณ์ทางธรรมชาติและสันทนาการริมแม่น้ำอนาคอสเทียเป็นส่วนประกอบพื้นฐานสำหรับความมีชีวิตชีวาที่ยังคงอยู่ต่อไปของเมืองที่กำลังเจริญเติบโตนี้ พื้นที่แนวชายฝั่งจำนวนมากยังคงเป็นพื้นที่ป่าในกรรมสิทธิ์ของเขตดี.ซี.หรือรัฐบาลกลาง รวมถึงพื้นที่ขนาดกว่า ๑,๒๐๐ เอเคอร์ของสวนสาธารณะ อนาคอสเทียซึ่งรัฐบาลกลางเป็นเจ้าของและได้ฉลองครบรอบ ๑๐๐ ปีไปเมื่อปี ค.ศ. ๒๐๑๘ เขตดี.ซี.ได้สร้างระบบสวนสาธารณะบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำให้มีพื้นที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงแม่น้ำได้โดยสะดวกเพื่อสันทนาการ นับตั้งแต่สถานที่หลัก ๆ อย่างสวนสาธารณะยาร์ดส์ (Yards Park) ไปจนถึงสถานที่ซึ่งได้รับการปรับปรุงอย่างศูนย์นันทนาการเคนิลเวิร์ธ (Kenilworth Recreation Center) ซึ่งล้วนแล้วแต่ใช้เส้นทางริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียในการเข้าถึงได้ พื้นที่ริมแม่น้ำอนาคอสเทียเป็นสถานที่ซึ่งเขตดี.ซี.ใช้เพื่อการผ่อนคลายและสร้างความบันเทิงเริงใจ ถือเป็นสถานที่สำหรับทุกคนตั้งแต่ครอบครัวของคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว สถานที่เพื่อค้นหาธรรมชาติในเขตเมืองและสถานที่เพื่อการพักผ่อนด้วยกิจกรรมสันทนาการและการชมทิวทัศน์ของแม่น้ำ นับตั้งแต่การดำเนินโครงการฯ ในปี ค.ศ. ๒๐๐๓ ผู้อยู่อาศัยของเขตดี.ซี.เพิ่มขึ้นเป็นกว่า ๑๒๕,๐๐๐ คน และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องประมาณเดือนละ ๘๐๐ คน และพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียและระบบสวนสาธารณะที่อุดมสมบูรณ์ก็จะช่วยสร้างสมดุลความเติบโตและคอยให้บริการผู้อยุ่อาศัยของเขตดี.ซี.ทุกคน
พื้นที่ริมแม่น้ำอนาคอสเทียได้กลายเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและมีองค์ประกอบที่ทำให้พื้นที่นี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น นั่นก็คือ ศูนย์การค้าที่มีสถานที่ทางวัฒนธรรม สนามกีฬาและพิพิธภัณฑ์ที่สร้างความมีชีวิตชีวาให้กับพื้นที่ริมแม่น้ำโดยมีผู้มาเยือนนับล้านคนต่อปีและสร้างความเข้มแข็งแก่มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ประจำเมือง นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาหลายด้านและพื้นที่ชุมชนใกล้เคียงใหม่ ๆ ที่เป็นจุดหมายปลายทาง เช่น The Wharf ซึ่งเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเขตดี.ซี.และความสัมพันธ์กับสายน้ำผ่านพื้นที่และโครงการสาธารณะอันเป็นเอกลักษณ์ จากสนามเบสบอล Nationals Park และสนามฟุตบอล Audi Field ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ สถานที่จัดการแสดงดนตรี อนุสาวรีย์ในอนาคตและสวนสะพานถนนสายที่ ๑๑ (The 11th Street Bridge Park) ที่มีแผนก่อสร้าง ทำให้พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียได้เพิ่มพลังงานทางวัฒนธรรมและพลวัตรให้กับเขต ดี.ซี.
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การฟื้นฟูพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำนั้นเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเมือง อย่างครอบคลุมและการส่งต่อความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและสังคมแบบแบ่งปัน จากการที่แผนโครงการฯ ได้สื่อให้เห็นภาพว่า “แม่น้ำจะไม่เป็นเส้นแบ่งเขตทางสังคมและเศรษฐกิจที่ขยายกว้างโดยแบ่งแยก ‘ด้านตะวันออกของแม่น้ำ” จาก “ด้านตะวันตก” อีกต่อไป” แต่เป็น “แหล่งของโอกาสทางเศรษฐกิจที่ผลิตทรัพยากรเพื่อกระตุ้นการฟื้นฟู และลดช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนในพื้นที่ใกล้เคียงบริเวณริมฝั่งแม่น้ำ” มากกว่า ความเจริญรุ่งเรืองที่ครอบคลุมนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับการขยายการเข้าถึงโอกาสและให้แนวทางแก่ผู้อยู่อาศัยในเขตดี.ซี. ที่เป็นชนชั้นกลางโดยผ่านความเติบโตอย่างยั่งยืนของตำแหน่งงาน ที่อยู่อาศัยที่ราคาไม่แพงและรายได้ทางภาษี งานใหม่ ทางเลือกด้านการค้าปลีก พัฒนาการด้านการขนส่ง และสวนสาธารณะริมแม่น้ำ อนาคอสเทีย ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ล้วนแสวงหามาเพื่อรองรับผู้อยู่อาศัยใหม่แบบระยะยาวในชุมชนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำตลอดจนในเมืองและภูมิภาค ขณะที่การฟื้นฟูแม่น้ำ อนาคอสเทียได้นำมาสู่ความก้าวหน้าครั้งสำคัญในเรื่องของความครอบคลุมทุกด้านแล้ว ยังมีความจำเป็นต้องสร้างหลักประกันแก่คนรุ่นต่อไปต่อโครงการริมฝั่งแม่น้ำที่มุ่งหมายในเรื่องความเสมอภาค
การอนุรักษ์มรดกของแม่น้ำอนาคอสเทีย
แม่น้ำอนาคอสเทียมีประวัติศาสตร์ที่เจริญรุ่งเรืองตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงสมัยการปฏิวัติอุตสาหกรรม และมีการสืบทอดมรดกมาจนถึงปัจจุบัน เขตดี.ซี. ได้ทำงานอย่างมุ่งมั่นเพื่อบริหารจัดการโครงสร้างทางประวัติศาสตร์ โดยการวิจัย การกำหนดชื่อ การปรับเปลี่ยนให้เกิดการใช้สอย และการตรวจสอบข้อเท็จจริงทางโบราณคดี ต่อไปนี้คืองานที่โดดเด่นด้านการอนุรักษ์ทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์
- การสำรวจทางโบราณคดี ณ สวนสาธารณะอนาคอสเทียได้ค้นพบหลักฐานการเป็นสถานที่ตั้งค่าย พักแรมก่อนประวัติศาสตร์ การขนส่งระดับภูมิภาคของชาวอเมริกันพื้นเมือง อุตสาหกรรมและพื้นที่ชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน โดยการเสนอให้สวนสาธารณะอนาคอสเทียได้ขึ้นทะเบียนระดับชาติอยู่ระหว่างดำเนินการ
- เขตอนุรักษ์ที่ ๑๓ ในเชิงประวัติศาสตร์แล้วเป็นสถานที่ตั้งถิ่นฐานของชาวอเมริกันพื้นเมืองและมีการค้นพบเครื่องมือหินยุคก่อนประวัติศาสตร์ในขั้นตอนการผลิตต่าง ๆ ระหว่างการสำรวจทางโบราณคดี ซึ่งแสดงว่าสถานที่นี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นแหล่งการผลิตเครื่องมือหิน และในยุคปัจจุบันสถานที่นี้ยังเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลทหารเรือและคลังสรรพาวุธอีกด้วย
- การสำรวจทางโบราณคดี ณ พื้นที่สะพานถนนที่ ๑๑ (the 11th Street Bridge)ได้ค้นพบถนนที่ตัดบริเวณใต้ดิน มีอายุนับย้อนไปถึงช่วงทศวรรษที่ ๑๘๖๐
- สิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์จำนวนมากตั้งอยู่ ณ ย่านธุรกิจ Capitol Riverfront ซึ่งบางส่วนได้มีการปรับปรุงเพื่อให้สามารถใช้ได้ใหม่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงฟื้นฟู อาคาร Lumber Shed ใช้เป็นภัตตาคารแห่งใหม่และโรงปั๊มน้ำแคพพิตอลเก่า (Old Capitol Pumphouse) กลายเป็นพื้นที่ด้านการศึกษาสำหรับองค์กร Earth Conservation Corps
- อู่เรือวอชิงตัน (Washington Navy Yard) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ที่สุดของกองทัพเรือที่ยังเปิดดำเนินการคือสถานที่ทางประวัติที่ยังคงมีบทบาทจวบจนปัจจุบัน โดยที่นี่มีการจ้างงานประมาณ ๑๖,๐๐๐ คนและเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ทหารเรือสหรัฐ
- พื้นที่ใกล้เคียงสวนสาธารณะคิงแมน (Kingman Park) ได้กำหนดให้เป็นเขตสำคัญทางประวัติศาสตร์ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑
แนวทางดำเนินการสำหรับคนยุคต่อไป
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ ๑๕ ปีการดำเนินโครงการแนวคิดริเริ่มเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย รายงานฉบับนี้จึงเน้นนำเสนอความสำเร็จต่าง ๆ และกำหนดกรอบของโอกาสในอนาคตที่พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียมีบทบาทต่อเขตดี.ซี. รายงานความคืบหน้าฉบับนี้ได้มองข้ามผ่านขอบเขตเดิมในการดำเนินแผนโครงการฯ ที่ควบคุมพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำซึ่งเป็นของสาธารณะและรวมเอาชุมชนที่อยู่ติดกันริมฝั่งแม่น้ำเข้ามาด้วย รายงานฉบับนี้เน้นในด้านที่เป็นประเด็นหลักสำคัญดังต่อไปนี้ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดหลักดั้งเดิมของแผนโครงการฯ
กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีความก้าวหน้าอย่างมากเกี่ยวกับการดำเนินการพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย แต่ก็ยังคงมีงานต้องดำเนินการอยู่ สถานที่ขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานภาครัฐ เช่น สนามกีฬาอนุสรณ์ Robert F. Kennedy, ย่าน Hill East และพื้นที่ Poplar Point ยังอยู่ในระหว่างการวางแผนหรือในขั้นตอนแรกของการปรับปรุงฟื้นฟู นับตั้งแต่เริ่มแผนโครงการฯ เขตดี.ซี.ได้กระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกและฉันทามติมากยิ่งขึ้นในประเด็นเรื่องความเสมอภาคซึ่งเป็นความกดดันจากการเพิ่มขึ้นอย่างมากของประชากรซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยในราคาที่สามารถหาซื้อได้และโอกาสทางเศรษฐกิจ จากการที่เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนมาอย่างยาวนาน ขณะนี้เขตดี.ซี.ได้ดำเนินงานเพื่อขยายนโยบายและโครงการที่สนับสนุนความเป็นเมืองที่มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งหมายถึงการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความเสี่ยง ต่ออุทกภัยบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ นอกจากนี้ ยังดำเนินการสร้างความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้นว่าพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ ได้เชื้อเชิญให้เกิดนวัตกรรมและคงความได้เปรียบด้านการแข่งขันของเขตดี.ซี.ต่อเวทีระดับโลกได้อย่างไร เมื่อพิจารณาถึงอนาคต เขตดี.ซี.มุ่งมั่นที่จะให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมและความเจริญรุ่งเรืองอย่างครอบคลุม ความยืดหยุ่นของคนรุ่นต่อไป การออกแบบเชิงนวัตกรรม และการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน
ความสำเร็จของโครงการแนวคิดริเริ่มเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียที่สำคัญ ๑๕ อันดับแรก
- เชื่อมต่อสวนสาธารณะแม่น้ำอนาคอสเทียเข้ากับระบบเปิดโล่งแบบผสมผสานโดยเป็นพื้นที่ป่าขนาด ๑,๘๐๐ เอเคอร์ ประกอบด้วยสวนสาธารณะสำคัญแห่งใหม่ เช่น สวนสาธารณะยาร์ดส์ (Yards Park) และสวนสาธารณะคะแนล (Canal Park)
- สร้างทางเดินเลียบริมสองฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียระยะทางยาวต่อเนื่องเกือบ ๒๐ ไมล์บริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียแล้วเสร็จ
- ปรับปรุงคุณภาพน้ำและสภาพแม่น้ำขั้นมูลฐานโดยการฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำและลำธาร การออกข้อบังคับและโครงการแม่น้ำสะอาดของเขตดี.ซี.มูลค่า ๒.๘ พันล้านเหรียญสหรัฐ
- ดึงดูดผู้จ้างงานจากภาครัฐบาลและเอกชนที่หลากหลายโดยมีพนักงานที่ทำงานในบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียมากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ คน
- กระตุ้นการพัฒนาด้านที่อยู่อาศัยแหล่งใหม่ ประกอบด้วย การมีที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นมากกว่า ๑๘,๐๐๐ ยูนิต สำหรับกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประกอบด้วย ที่อยู่อาศัยใหม่จำนวนกว่า ๔,๕๐๐ ยูนิตและที่อยู่อาศัยเดิมซึ่งราคาไม่แพง
- ออกแบบสะพานสำหรับการเดินทางต่อเนื่องหลายรูปแบบที่มีความทันสมัยสูงสุด ประกอบด้วย สะพานบริเวณถนนสายที่ ๑๑ และสะพานเฟรเดอริค ดักลาส ณ ถนนเซาท์แคพพิตอลเพื่อให้สามารถบริการผู้อยู่อาศัยท้องถิ่นได้ดียิ่งขึ้น
- ส่งมอบพื้นที่กว่า ๑๓ ล้านตารางฟุตริมฝั่งแม่น้ำเพื่อการพาณิชย์ ค้าปลีกและการบริการ
- สร้างความเข้มแข็งให้พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านวัฒนธรรมระดับโลก โดยมี โรงละคร Arena Stage ศูนย์ศิลปะอนาคอสเทีย พิพิธภัณฑ์สายลับนานาชาติ The Anthem (สถานที่แสดงดนตรีและหอประชุม) โรงละคร Anacostia Playhouse สนามเบสบอล Nationals Park และสนามฟุตบอล Audi Field
- สร้างความเข้มแข็งให้พื้นที่ใกล้เคียงริมฝั่งแม่น้ำที่มีอยู่โดยการลงทุนภาครัฐด้านโครงสร้างพื้นฐาน โรงเรียน ห้องสมุด สาวนสาธารณะและศูนย์สันทนาการ
- เปลี่ยนพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำด้านตะวันตกเฉียงใต้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียกว่า The Wharf เพื่อให้เป็นจุดหมายปลายทางระดับภูมิภาคแบบสี่ฤดูกาลสำหรับผุ้อยู่อาศัยและผู้มาเยือนโดยเป็นศูนย์รวมของร้านค้า ภัตตาคาร สถานที่จัดแสดงดนตรี โรงแรม สำนักงาน บ้านและพื้นที่ชุมนุมสาธารณะ
- รายได้กองทุนทั่วไปมูลค่า ๒๘๗ ล้านดอลลาร์ให้แก่เขตดี.ซี.ในปี พ.ศ. ๒๐๑๘ เกิดขึ้นภายในเขตปรับปรุงธุรกิจ Capitol Riverfront Business Improvement District (BID) ซึ่งเป็นมูลค่ามากกว่าสามเท่าครึ่งของจำนวนที่เคยได้ก่อนที่จะมีเขต BID ในปี ค.ศ. ๒๐๐๗
- สร้างประสบการณ์สวนสาธารณะอันเป็นเอกลักษณ์ เช่น สวนสาธารณะยาร์ดส์ (Yards Park) และสวนสาธารณะคะแนล (Canal Park) โดยมีกิจกรรมตลอดทั้งปีเพื่อดึงดูดผู้คนบริเวณใกล้เคียงและผู้มาเยือนจากทั่วทุกภูมิภาคมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องด้านศูนย์สันทนาการบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงริมฝั่งแม่น้ำ
- จัดที่อยู่อาศัยและสถานที่ทำงานใหม่เป็นกลุ่มบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงริมแม่น้ำในย่านสถานีรถไฟใต้ดินเมืองสายสีเขียว สีน้ำเงิน สีส้มและสีเงิน ส่งเสริมให้มีสถานที่ที่เดินทางโดยการเดินได้อย่างปลอดภัย
- ออกแบบถนนใหม่เพื่อรองรับประชาชนและจักรยาน ตลอดจนพาหนะต่าง ๆ และการขยายการ ขนส่งผ่านรถประจำทาง DC Circulator bus รถรับส่ง บริการรถจักรยานสาธารณะและจะมีบริการรถรางในอนาคต
- ก่อตั้งพื้นที่อนุรักษ์ของมลรัฐแห่งแรกประจำเขต ณ เกาะคิงแมนและสนับสนุนการกลับคืนมาของสัตว์ป่า เช่น นกอินทรีย์หัวล้านบริเวณแม่น้ำอนาคอสเทีย
ค.ศ. ๒๐๑๘ ปีแห่งแม่น้ำอนาคอสเทีย
ปี ค.ศ. ๒๐๑๘ ถือเป็นปีทองของแม่น้ำอนาคอสเทียซึ่งไหลผ่านกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.และมลรัฐแมริแลนด์ เนื่องจากเป็นเวลาครบรอบ ๑๕ ปีของแผนโครงการแนวคิดริเริ่มเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย (Anacostia Waterfront Initiative: AWI)
พื้นที่เปิดเลียบริมฝั่งแม่น้ำที่ไหลเอื่อย ๆ ได้รับการอนุรักษ์ไว้ให้เป็นพื้นที่สวนสาธารณะโดยพระราชบัญญัติที่ออกโดยสภาคองเกรสเมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม ค.ศ. ๑๙๑๘ คือเมื่อ ๑๐๐ ปีที่แล้ว ปีนี้ไม่เพียงแต่ครบรอบการเฉลิมฉลองการครบรอบ ๑๐๐ ปีของกฎหมายดังกล่าวซึ่งช่วยอนุรักษ์สวนสาธารณะ อนาคอสเทีย แต่ยังทำให้การก่อสร้างอุโมงค์ลอดแม่น้ำอนาคอสเทียของเขตดี.ซี.แล้วเสร็จซึ่งช่วยพัฒนาคุณภาพน้ำได้อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกัน กรมพลังงานและสิ่งแวดล้อมของเขตดี.ซี.และกรมอุทยานแห่งชาติ (National Park Service) จะตัดสินใจครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำความสะอาดท้องน้ำ และแฟนเบสบอลจะได้ฉลองการแข่งขันเบสบอลรายการเมเจอร์ลีกออลสตาร์เกมครั้งที่ 89 บริเวณริมฝั่งแม่น้ำ อนาคอสเทียด้วย
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเหตุการณ์สำคัญ การครบรอบ โครงการ และกิจกรรมที่ทำให้ ค.ศ. ๒๐๑๘ เป็นปีที่สำคัญ ซึ่งรู้จักกันว่าเป็นปีแห่งแม่น้ำอนาคอสเทีย ดังนั้น ปี 2018 จึงถือเป็นโอกาสซึ่งเป็นการเตือนความทรงจำในการรับรู้ประวัติศาสตร์และมองไปสู่อนาคต โดยยังคงดำเนินการปฏิรูปพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียต่อไปเพื่อให้เป็นพื้นที่สาธารณะที่มีชีวิตชีวา อุดมสมบูรณ์และเจริญเติบโตบริเวณใจกลางเขตดี.ซี. พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียซึ่งเคยเป็นเส้นแบ่งพื้นที่เมืองหลวงของประเทศจะกลายเป็นมาตรฐานการทดสอบด้านการฟื้นฟูด้านนิเวศน์วิทยา ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยุติธรรม และการเฉลิมฉลองความเข้มแข็งและความเป็นหนึ่งเดียวของชุมชน
ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามช่วงเวลาของพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย
ปี
|
กิจกรรม
|
พ.ศ. ๒๕๔๓
|
โครงการแนวคิดริเริ่มเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย
|
พ.ศ. ๒๕๔๕
|
แผนแม่บทฮิลล์อีสต์
|
พ.ศ. ๒๕๔๖
|
แผนกรอบการดำเนินงานพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย
|
พ.ศ. ๒๕๔๘
|
- เปิดศูนย์การศึกษาทรัพยากรทางน้ำ
- แผนแม่บทการขนส่งบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย
|
พ.ศ. ๒๕๔๙
|
- พระราชบัญญัติที่ดินเขตดี.ซี. ในการโอนพื้นที่ Poplar Point
- แนวทางการออกแบบสถาปัตยกรรมการขนส่งบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย
- แผนประมวลสรุปสำหรับเมืองหลวงแห่งชาติ: องค์ประกอบระดับเขต
|
พ.ศ. ๒๕๕๑
|
- สนามเบสบอล Nationals Park ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียในย่านอู่เรือ Navy Yard เปิดดำเนินการ
- อนาคอสเทีย ๒๐๓๒ แผนการที่ทำให้แม่น้ำอนาคอสเทียสามารถทำการประมงและว่ายน้ำได้
- เขตการพัฒนาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย
- พระราชบัญญัติฉบับแก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยการปรับปรุงน้ำฝนแบบองค์รวม
|
พ.ศ. ๒๕๕๒
|
- เขตปรับปรุงธุรกิจ Capitol Riverfront Business Improvement District (BID) ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการ
- การศึกษาการวางแผนพื้นที่ Boathouse Row (พื้นที่ตามแนวฝั่งตะวันตกของแม่น้ำอนาคอสเทีย)
- พระราชบัญญัติการทำความสะอาดและคุ้มครองแม่น้ำอนาคอสเทีย (กฎหมายถุงเขตดี.ซี.)
|
พ.ศ. ๒๕๕๓
|
- เฉลิมฉลองเทศกาลประจำปี Kingman Island Bluegrass Festival ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรก
- การปฏิสังขรณ์โรงละคร Arena Stage
- แผนและรายงานการฟื้นฟูสันปันน้ำบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย
|
พ.ศ. ๒๕๕๕
|
- การก่อสร้างสะพานถนนสายที่ ๑๑ ดำเนินการแล้วเสร็จ
- เขตปรับปรุงธุรกิจอนาคอสเทียได้รับอนุญาตให้ดำเนินการ
- แผนพื้นที่ขนาดเล็กถนนแมริแลนด์อเวนิว
- แผนการดำเนินงานสันปันน้ำแม่น้ำอนาคอสเทีย
|
พ.ศ. ๒๕๕๖
|
- เปิดศูนย์ศิลปะอนาคอสเทีย
- เขตนิเวศน์วิทยาเซาท์เวสต์
- มีแผน Sustanable DC (แผนการพัฒนาเขตดี.ซี.ที่ยั่งยืน)
|
พ.ศ. ๒๕๕๗
|
- มีแผนแม่บทความคิดริเริ่มการขนส่งบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย (ปรับปรุงปี ๒๐๑๔)
- มีแผน Move DC (เขตดี.ซี. ที่ก้าวไปข้างหน้า)
|
พ.ศ. ๒๕๕๘
|
- อนุมัติเขตปรับปรุงธุรกิจเซาท์เวสต์ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการ
- เฉลิมฉลองเทศกาลแม่น้ำอนาคอสเทียประจำปี (Anacostia River Festival) ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรก
- การศึกษาการวางแผนถนน Southeast Boulevard
- แผนแผนพื้นที่ขนาดเล็กย่านเซาท์เวสต์
- พระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งซึ่งมิใช่สิ่งทอ
|
พ.ศ. ๒๕๕๙
|
- ทางเดินริมแม่น้ำอนาคอสเทียเชื่อมโยงกับมลรัฐแมริแลนด์ (สร้างแล้วเสร็จ ๑๙ ไมล์)
- มีแผนที่ชื่อว่า “Climate Ready DC” เพื่อปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- พระราชบัญญัติฉบับแก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยปกิณกะการประมงและสัตว์ป่า
|
พ.ศ. ๒๕๖๐
|
- เปิด The Wharf ระยะที่ ๑
- พิพิธภัณฑ์ไบเบิ้ลเปิดทำการ
- กรอบการดำเนินงานวิสัยทัศน์ย่าน Buzzard Point + แนวทางทบทวนการออกแบบ
- แผนการจัดการสวนสาธารณะอนาคอสเทีย
- ศึกษาความเป็นไปได้ของสวนสาธารณะหมู่เกาะคิงแมนและเฮอริเทจ
|
พ.ศ. ๒๕๖๑
|
- งบประมาณ ๔.๗ ล้านดอลลาร์สำหรับเกาะคิงแมน
- อุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำอนาคอสเทียสร้างแล้วเสร็จ
- สนามฟุตบอล Audi Field เปิดใช้งาน
- การแข่งขันรวมนักเบสบอลดาวเด่นแห่งเมเจอร์ลีก (MLB All-Star Game)
- แผนแม่บทฐานทัพป้อมแม็คแนร์ (Fort McNair)
- การศึกษาการบริหารจัดการความเสี่ยงอุทกภัยบนแม่น้ำ Watts Branch (แม่น้ำสายย่อยของแม่น้ำอนาคอสเทีย)
- แผนแม่บทสนามกีฬาอนุสรณ์ Robert F. Kennedy
|
กรอบการดำเนินงานด้านการวางแผนและนโยบาย
แนวทางด้านการวางแผนและนโยบายสำหรับพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียมีการดำเนินการเสริมโดยแผนอื่น ๆ จำนวนมากนับตั้งแต่มีแผนกรอบการดำเนินงานพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย (ค.ศ. ๒๐๐๓) ประกอบด้วยแผนประมวลสรุปสำหรับเมืองหลวงแห่งชาติ: องค์ประกอบระดับเขต (Comprehensive Plan for the National Capital: District Elements) แผน Sustainable DC (แผนการพัฒนาเขตดี.ซี.ที่ยั่งยืน) แผน Climate Ready DC (แผนเพื่อการปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) และแผน MoveDC (แผนเขตดี.ซี. ที่ก้าวไปข้างหน้า) ตลอดจนแผนที่เน้นเฉพาะพื้นที่ เช่น แผนพัฒนาย่าน Southwest และย่าน Buzzard Point สิ่งที่ป้องกันแผนและนโยบายเหล่านี้มักสร้างความเข้มแข็งแก่แนวคิดหลักและเป้าหมายของแผนโครงการแนวคิดริเริ่มเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย และความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นที่ริมแม่น้ำของเขตดี.ซี. รวมถึงความท้าทายและโอกาสจะยังคงค่อย ๆ พัฒนาต่อไป
๑๕ ปีแห่งความก้าวหน้า
- พื้นที่ใกล้เคียง – การสร้างและการคงสภาพย่านริมแม่น้ำที่มั่นคงแข็งแกร่ง
- สิ่งแวดล้อม - แม่น้ำที่สะอาดและมีชีวิตชีวา
- การขนส่ง - การขจัดสิ่งกีดขวางและสร้างการเข้าถึง
- สวนสาธารณะ - ระบบสวนสาธารณะบริเวณริมฝั่งแม่น้ำขนาดใหญ่
- จุดหมายปลายทาง – จุดหมายปลายทางด้านวัฒนธรรมและสถานที่อันมีเอกลักษณ์เฉพาะ
พื้นที่ใกล้เคียง
กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ในปัจจุบันมีชุมชนที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำที่มีสีสันทั้งเก่าและใหม่ ซึ่งได้รับประโยชน์จากการลงทุนและสิ่งสาธารณูปโภค ประชากรที่เพิ่มมากขึ้นได้มาอยู่อาศัย ทำงาน ทำกิจกรรมและเชื่อมต่อกับพื้นที่ใกล้เคียงริมแม่น้ำที่สามารถเข้าถึงได้ ในขณะเดียวกัน ผู้มาเยือนที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นก็ได้สัมผัสประสบการณ์พื้นที่ริมแม่น้ำเพื่อการธุรกิจ สันทนาการและความบันเทิง
ความหลากหลายของย่านพื้นที่ทางประวัติศาสตร์และพื้นที่ที่เกิดขึ้นใหม่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียได้รับผลประโยชน์จากการอยู่ติดกับริมฝั่งแม่น้ำ และพื้นที่เหล่านี้ถูกทำให้เข้มแข็งด้วยการลงทุนในโรงเรียน สวนสาธารณะ ห้องสมุด แหล่งค้าปลีกใหม่ พื้นที่ทางวัฒนธรรมและศูนย์กลางจ้างงาน
เป้าหมายของโครงการฯ สำหรับพื้นที่ใกล้เคียง
- ส่งเสริมการใช้พื้นที่ใกล้เคียงริมฝั่งแม่น้ำแบบผสมผสานด้วยโอกาสในการดำรงชีวิต ทำงานและพักผ่อนหย่อนใจ
- ลงทุนในพื้นที่ใกล้เคียงที่มีอยู่เดิมเพื่อประกันว่าผู้อยู่อาศัยในปัจจุบันจะได้รับการบริการและสาธารณูปโภคที่ดีขึ้น
- สร้างโอกาสให้แก่ประชากรมากกว่า ๒๐,๐๐๐ ครัวเรือนที่มีรายได้แบบผสมผสานให้ได้อาศัยในบริเวณเขตพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ
- ฟื้นฟูย่านการพาณิชย์ที่มีอยู่เดิมและเชื่อมต่อศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์เข้ากับสิ่งอำนวยความสะดวกแห่งใหม่
การรองรับย่านดาวน์ทาวน์ที่กำลังเจริญเติบโต
พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียเดิมตั้งใจวางแผนให้เป็นการขยายพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจ (Central Business District หรือ CBD) ใจกลางเมืองของเขตดี.ซี.เพื่อจับความเติบโตทางการพาณิชย์และตำแหน่งงานที่ขยายออกนอกเขตดาวน์ทาวน์ในปัจจุบัน พื้นที่ของเขตดี.ซี. ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วต่างก็ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย และความเติบโตนี้ส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จจากการใช้ประโยชน์พื้นที่สาธารณะและพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อการพัฒนาแบบหลากวัตถุประสงค์และเน้นการขนส่ง การพัฒนาที่ดินตลอดแนว Capitol Riverfront โดยเฉพาะบริเวณย่าน Buzzard Point มีความก้าวหน้ารวดเร็วกว่าที่คาดไว้ โครงการเชิงพาณิชย์เหล่านี้สร้างกระแสการพัฒนาในเบื้องต้นบริเวณริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นการก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่เพิ่มสูงขึ้น
การเคหะและพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งครอบคลุม
พื้นที่ใกล้เคียงริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียต่างเป็นพื้นที่ที่มีการเติบโตเร็วที่สุดของเขตดี.ซี. โดยมีการขยายตัวด้วยจำนวนบ้านใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงบ้านที่สร้างขึ้นทดแทนหลังเก่าและที่อยู่อาศัยใหม่ที่ราคาไม่แพง รวมถึงบ้านสำหรับผู้สูงอายุ การพัฒนาที่หลั่งไหลเข้ามาในปัจจุบันยังเป็นกลไกสำคัญในการส่งต่อสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการไปยังพื้นที่ใกล้เคียงในปัจจุบัน
พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำที่เกิดดอกออกผล
ปัจจุบันมีประชากรมากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ คนทำงานอยู่บริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำในหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่หลากหลาย สถานที่ทางการทหารที่มีชื่อเสียงในทางประวัติศาสตร์ยังคงเป็นแหล่ง การจ้างงานสำคัญ เช่น บริเวณอู่เรือวอชิงตัน (Washington Navy Yard) และป้อมแม็คแนร์ (Fort McNair) ทำเลคาดว่าพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำจะยังคงดึงดูดผู้ที่มีความสามารถชั้นนำและมีจุดเด่นของเขตดี.ซี.สำหรับที่ข้อเสนอการตั้งสำนักงานใหญ่แห่งที่สองของบริษัทแอมะซอน รัฐบาลเขตดี.ซี.ได้ทำเป็นตัวอย่าง โดยการสร้างงานแก่ลูกจ้างรัฐบาลนับพันตำแหน่งบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงริมฝั่งแม่น้ำเมื่อไม่กีปีที่ผ่านมาบริเวณใกล้เส้นทางรถไฟใต้ดิน ทั้งบริเวณสถานี Waterfront สถานี Navy Yard สถานีอนาคอสเทีย และสถานี Minnesota Avenue สำนักงานรัฐบาลเหล่านี้มีสิ่งก่อสร้างสาธารณะที่ปลูกสร้างใหม่หรือใช้รองรับผู้ที่อยู่อาศัยถาวรในเขตการพัฒนาแบบใช้ประโยชน์ผสมผสานและเชิงพาณิชย์แหล่งใหม่
พลังแห่งสวนสาธารณะ
สวนสาธารณะทั้งแห่งใหม่และที่ได้รับการปรับปรุงทำให้พื้นที่ใกล้เคียงริมฝั่งแม่น้ำอนาคอส-เทียมีสิ่งดึงดูดใจที่ทรงพลังสามประการ ได้แก่ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่การพัฒนาใหม่ ๆ ผ่านการพักผ่อนหย่อนใจและกิจกรรมต่าง ๆ ให้หลักประกันว่าพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำจะยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่เป็นมิตรกับครอบครัว และให้ความยืดหยุ่นด้านสิ่งแวดล้อมที่ช่วยบรรเทาอุทกภัยและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และได้มีการเชื่อมต่อพื้นที่ของสวนสาธารณะคะแนล (Canal Park) สวนสาธารณะยาร์ดส์ (Yards Park) สวนสาธารณะไดมอนด์ทีค (Diamond Teague Park) และสวนสาธารณะวาร์ฟ (Wharf Park) เข้าด้วยกันกับพื้นที่พัฒนาใหม่เหล่านี้ จัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงริมฝั่งแม่น้ำแก่ทั้งผู้อยู่อาศัยเดิมและที่ย้ายเข้ามาใหม่ คนงานและผู้มาเยือน นอกจากนี้ สวนสาธารณะของรัฐบาลกลางที่มีชื่อเสียงและเป็นพื้นที่เปิดโล่งครอบคลุมตั้งแต่สนามกอล์ฟแลงสตันมายังสวนรุกขชาติแห่งชาติและสวนสาธารณะ อนาคอสเทียกำลังมีการลงทุนพัฒนาใหม่รวมถึงมีแผนการเพื่อการเชื่อมโยงอย่างเข้มแข็งกับชุมชนที่อยู่ติดกัน เขตดี.ซี.ได้เป็นผู้นำการรณรงค์ด้านการลงทุนที่ยั่งยืนเพื่อบูรณะศูนย์สันทนาการที่มีอยู่เดิมบริเวณทั้งสองฝั่งริมแม่น้ำ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำให้ละแวกใกล้เคียงเหล่านี้ยังคงมีชีวิตชีวา
การค้าปลีกบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ
ภัตตาคาร บาร์และร้านกาแฟนับร้อยแห่งมีบริการเพื่อเสนอประสบการณ์ด้านการลิ้มลองที่หลากหลายบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงริมฝั่งแม่น้ำ การค้าปลีกแห่งใหม่ยังยังสร้างโอกาสด้านการจับจ่ายใช้สอยที่ดีมากขึ้นแก่พื้นที่ใกล้เคียงริมฝั่งแม่น้ำ ได้แก่ สวนสาธารณะ ๗ (เลขที่ ๔๐๕๘ ถนนมิเนโซต้า) และย่าน Hill East ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระยะที่ ๑
พื้นที่ใกล้เคียงซึ่งเชื่อมต่อกัน
จากการที่มีสวนสาธารณะทั้งแหล่งใหม่และที่ได้รับการฟื้นฟูแล้วเพิ่มเติมไปยังระบบเส้นทางเดินริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย รวมถึงสะพานหลากรูปแบบที่สร้างขึ้นใหม่ ทางเลือกในการเดินทางที่เพิ่มขึ้น และแท็กซี่ทางน้ำที่พาข้ามช่องแคบวอชิงตัน ทำให้พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียจึงเข้าถึงได้และเชื่อมต่อกับพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งอยู่ติดกัน
การสร้างความเสมอภาคในพื้นที่ใกล้เคียงที่อยู่อาศัย
การอนุรักษ์และสร้างที่อยู่อาศัยที่ราคาไม่แพงเกินไปเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกทั่วเมือง ซึ่งเมื่อปรับเข้ากับพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียแล้ว เป็นยุทธศาสตร์สำคัญเพื่อประกันอนาคตที่เท่าเทียมกันมากยิ่งขึ้นเพื่อพื้นที่ใกล้เคียงเดิมและใหม่ นับตั้งแต่ ค.ศ. ๒๐๑๐ เป็นต้นมา ที่ดินซึ่งเขตดี.ซี.เป็นเจ้าของหรือควบคุมภายในเขตการพัฒนาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย (Anacostia Waterfront Development Zone) จำเป็นต้องจัดให้มีที่อยู่อาศัยราคาไม่แพงอย่างน้อยร้อยละ ๓๐ สำหรับผู้อยู่อาศัยที่มีรายได้ปานกลางถึงรายได้น้อย นี่เป็นการเน้นในเรื่องของที่อยู่อาศัยที่ได้เร่งให้มีการก่อสร้างพื้นที่อยู่อาศัยราคาไม่แพงทั้งเก่าและใหม่จำนวนมากกว่า ๔,๕๐๐ ยูนิตบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ นอกจากนี้ ในปี ค.ศ. ๒๐๑๙ เขตดี.ซี.จะเริ่มโครงการ ที่อยู่อาศัยครอบครัวระยะสั้นโครงการใหม่บริเวณพื้นที่เซาท์เวสต์เพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่ไร้ที่อยู่อาศัย
การเข้าถึงอาหาร ประชากรที่อยู่อาศัยมานานแล้วและที่เข้ามาอยู่ใหม่ในพื้นที่ เช่น ย่านเซาท์เวสต์และย่าน Capitol Riverfront ได้รับบริการร้านค้าปลีก สวนชุมชน และสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ใกล้เคียงอื่น ๆ อย่างเต็มที่ ซึ่งเกิดจากการลงทุนจากภาครัฐและเอกชนบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย
การเดินทาง พื้นที่ใกล้เคียงริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียมีการเชื่อมต่อที่ได้รับการปรับปรุงเข้ากับพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำผ่านเครือข่ายถนนที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นพร้อมกับมีเส้นทางจักยานและเส้นทางคนเดินที่ดีขึ้น ในอนาคต พื้นที่ใกล้เคียงริมฝั่งแม่น้ำเหล่านี้จะมีการเชื่อมต่อที่ดีขึ้นเพื่อข้ามแม่น้ำอนาคอสเทียด้วยเส้นทางถนนที่ได้รับการปรับปรุง การขยายเส้นทางรถรางสายถนนเบนนิ่ง (Benning Road Streetcar) และการเชื่อมต่อจักรยานกับคนเดินเท้า โครงการสะพานอนุสรณ์เฟรเดอริค ดักลาส (Frederick Douglass Memorial Bridge) ที่มีการคาดหวังอย่างมาก ซึ่งเริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. ๒๐๑๘ ก็จะอำนวยความสะดวกในฐานะทางเลือกในการเดินทางข้ามแม่น้ำ
สันทนาการ พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียมีการลงทุนที่เพิ่มขึ้นด้านสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะในชุมชนที่มีอยู่เดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางตะวันออกของแม่น้ำอนาคอสเทีย นอกจากสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะและศูนย์สันทนาการแห่งใหม่และที่ได้รับการปรับปรุงในพื้นที่ใกล้เคียงริมฝั่งแม่น้ำแล้ว การเชื่อมต่อทางเดินสู่และริมฝั่งแม่น้ำจากถนนเคนนิลเวิร์ธและถนนเซาท์แคปพิตอลได้เปิดทางเข้าสู่สิ่งอำนวยความสะดวกทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเขตดี.ซี.อีกด้วย
ความเจริญรุ่งเรืองที่ครอบคลุม การพัฒนาพื้นที่สำนักงานแหล่งใหม่ทำให้เกิดการตั้งบริษัท และหน่วยงานของเขตดี.ซี.และระดับรัฐบาลกลางบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย ตลอดจนเป็นการฟูมฟักการเป็นผู้ประกอบการอิสระและการลงทุนด้านธุรกิจที่เกิดใหม่ การพัฒนาใหม่ ๆ ยังทำให้เกิดโอกาสการจ้างงานด้านการก่อสร้าง โดยระยะที่ ๑ ของ The Wharf ทำให้เกิดการจ้างงานด้านการก่อสร้างหลายร้อยตำแหน่ง และโอกาสการฝึกงานร้อยละ ๓๐ ได้กำหนดขึ้นสำหรับผู้อยู่อาศัยของเขตดี.ซี.บริเวณพื้นที่เขต ๗ และเขต ๘ นอกจากนี้ การก่อสร้างสะพานเฟรเดอริค ดักลาสในปัจจุบันยังเป็นเป้าหมายสำคัญในการฝึกอบรมและจ้างงานผู้อยู่อาศัยของเขตดี.ซี.อีกด้วย
สิ่งแวดล้อม
ด้วยการมีผู้สนับสนุนอย่างกว้างขวางทั้งจากภาคประชาชนและรัฐบาล การลงทุนจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และการกำหนดนโยบายเชิงก้าวหน้า แม่น้ำอนาคอสเซียจึงมีการพลิกโฉมด้านสิ่งแวดล้อมครั้งสำคัญ ซึ่งเปลี่ยนแปลงมากจนเป็นผลดีและกลายเป็นแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับชาติ
การพลิกโฉมด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นกับแม่น้ำแห่งนี้ในช่วงระยะเวลา ๑๕ ปีที่ผ่านมาเป็นผลจากการทำงานอย่างไม่หยุดหย่อนของนักต่อสู้หลายท่านทั้งจากภาครัฐบาลและเอกชนและการดำเนินการอย่างมากมายที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งน้อยและใหญ่ จากโครงการตะกอนแม่น้ำอนาคอสเทียของเขตดี.ซี. ไปจนถึงโครงการแม่น้ำสะอาดของเขตดี.ซี. จากการก่อสร้างริมฝั่งแม่น้ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้นไปจนถึงความพยายามในการอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งที่อยู่ของสัตว์ตามธรรมชาติที่เพิ่มสูงขึ้น จากความพยายามในการทำความสะอาดและลดขยะในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า การปฏิบัติต่าง ๆ และผู้ลงมือปฏิบัติมากมายที่ได้ร่วมกันทำให้แม่น้ำอนาคอสเทียสามารถว่ายน้ำได้ ทำการประมงได้และสัญจรทางน้ำได้สำหรับทุกคน
เป้าหมายของโครงการฯ สำหรับสิ่งแวดล้อม
- ทำให้แม่น้ำเหมาะสำหรับการว่ายน้ำภายในปี พ.ศ. ๒๕๗๕
- ฟื้นฟูบทบาทด้านการเป็นที่อยู่อาศัยริมชายฝั่งของพื้นที่ลุ่มน้ำในสิ่งแวดล้อมทั้งในเขตเมืองและทางธรรมชาติ
- ดำเนินการแนวทางและมาตรฐานสีเขียวเพื่อตอบสนองการพัฒนาที่ยั่งยืน
- เพิ่มกิจกรรมทางน้ำทุกประเภท
- ส่งเสริมการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมบริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำของแม่น้ำ
การฟื้นฟูแม่น้ำ
แม่น้ำที่ใสสะอาดเป็นรากฐานของการฟื้นฟูแม่น้ำอนาคอสเทีย และทำให้วัตถุประสงค์และการลงทุนอื่น ๆ ทั้งหมดบริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำเป็นไปได้ แม่น้ำอนาคอสเทียครั้งหนึ่งมีฉายาว่า “แม่น้ำที่ถูกลืมของเขตดี.ซี.”เพราะมีมลภาวะสูงและพื้นที่ริมฝั่งที่รกร้าง แม่น้ำอนาคอสเทียกำลังได้รับการฟื้นคืนสภาพสภาพให้กลับมาว่ายน้ำและทำการประมงได้ รูปถ่ายเมื่อศตวรรษที่ผ่านมาแสดงถึงขยะที่ลอยเป็นแพในแม่น้ำ แต่ปัจจุบันแม่น้ำอนาคอสเทียพบกับการเกิดใหม่ด้านสิ่งแวดล้อมจากปัจจัยด้านคุณภาพน้ำที่ดีขึ้น การเพิ่มจำนวนของสัตว์ป่า และริมฝั่งแม่น้ำที่มีความเป็นธรรมชาติและสามารถเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการเปลี่ยนแปลงให้แม่น้ำ อนาคอสเทียสามารถทำการประมงและว่ายน้ำได้นั้น ในปี ค.ศ. ๒๐๑๔ เขตดี.ซี.ได้เริ่มโครงการระยะยาวเพื่อแก้ไขปัญหาตะกอนที่ปนเปื้อนเรียกว่า โครงการ “แม่น้ำอนาคอสเทียที่สะอาดกว่าเดิม” โดยโครงการนี้เป็นวิธีการที่ครอบคลุมมากที่สุดในการฟื้นฟูประวัติศาสตร์ของแม่น้ำ และเขตดี.ซี.ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน ๔๕ ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนความพยายามทำความสะอาดแม่น้ำ
คุณภาพน้ำที่ดีขึ้น
การฟื้นฟูลำธารห้าสายที่ไหลลงสู่แม่น้ำอนาคอสเทียได้ช่วยลดมลภาวะที่เป็นน้ำทิ้งและขยะที่สร้างความสกปรกแก่น้ำในแม่น้ำ ข้อกำหนดทางกฎหมายปูทางสู่สาธารณูปโภคด้านน้ำและท่อระบายน้ำของท้องถิ่น ให้กับหน่วยงาน DC Water[5] เพื่อริเริ่มโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่สุดในเขตดี.ซี.นับตั้งแต่การก่อสร้างระบบรถไฟใต้ดิน คือ โครงการแม่น้ำสะอาดของเขตดี.ซี. ซึ่งเป็นระบบอุโมงค์ระบายน้ำมูลค่า ๒.๗ พันล้านเหรียญสหรัฐ และแผนงานสีเขียวซึ่งช่วยลดปริมาณน้ำเสียที่ไม่ผ่านการบำบัดซึ่งไหลลงสู่แม่น้ำได้ร้อยละ ๙๘ โดยนอกจากการเยียวยาพื้นที่มีมลภาวะที่กำลังดำเนินการหลายแห่ง รวมถึงละแวก Kenilworth และ Boathouse Row แล้ว โครงการตะกอนแม่น้ำอนาคอสเทียยังนำไปสู่ยุทธศาสตร์การทำความสะอาดท้องน้ำที่สามารถบังคับใช้ได้ การพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมเก่าและมีการปนเปื้อนของมลพิษสูงเพิ่มเติมบริเวณริมฝั่งแม่น้ำยังทำให้เกิดการไหลบ่าทางอุตสาหกรรม เขตดี.ซี.และหุ้นส่วนได้ทำงานร่วมกันเพื่อลดมลภาวะจากขยะในแม่น้ำโดยการติดตั้งอุปกรณ์ดักขยะตามสาขาของแม่น้ำ การให้การศึกษาเรื่องต่อต้านการทิ้งขยะเกลื่อนกลาด แผนงานการบังคับใช้การทิ้งขยะที่ผิดกฎหมาย และกิจกรรมอาสาทำความสะอาดช่วยมิให้มีขยะเข้าไปในแม่น้ำอนาคอสเทียได้ปีละหลายล้านปอนด์ ประการสุดท้าย กฎข้อบังคับด้านการจัดการน้ำฝนของเขตดี.ซี.และโครงการสร้างแรงจูงใจ เช่น แผนงานความตกลงการซื้อ Stormwater Retention Credit (SRC) ก็ผลักดันให้มีการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านสิ่งแวดล้อมทั่วเมืองเพื่อลดมลภาวะและการกัดกร่อนจากการไหลของน้ำฝน
สุขภาพและกิจกรรม
คุณภาพน้ำที่ดีขึ้นเป็นการจัดการกับความกังวลเชิงยุติธรรมด้านสิ่งแวดล้อมระยะยาวและสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้นแก่ชุมชนใกล้เคียง ผุ้อยู่อาศัยกลับมาใช้ประโยชน์จากแม่น้ำเพื่อโอกาสด้านสันทนาการจำนวนมาก ประกอบด้วยกิจกรรมทางน้ำ เช่น พายเรือคายัค พายเรือ และการตกปลาเพื่อสันทนาการ
โครงการแม่น้ำสะอาดของเขตดี.ซี. (DC Clean Rivers Project)
โครงการแม่น้ำสะอาดของเขตดี.ซี. เป็นแผนงานด้านน้ำของเขตดี.ซี. เพื่อลดการไหลบ่าของน้ำเสีย (combined sewer overflows หรือ CSOs) ลงสู่แม่น้ำสายต่าง ๆ ในเขตดี.ซี. CSOs เป็นไหลทะลักของน้ำเสียและน้ำฝนจากศักยภาพที่ไม่เพียงพอของการบำบัดและการเก็บกักน้ำของระบบท่อน้ำเสียในเขตเมือง เมื่อระบบท่อน้ำเสียดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ แม่น้ำและลำธารในเขตดี.ซี. พบกับปัญหาเกี่ยวกับ CSOs ระหว่างช่วงที่เกิดฝนตก โครงการแม่น้ำสะอาดของเขตดี.ซี. ได้สร้างระบบอุโมงค์ใหม่ขนาด ๑๕๗ ล้านแกลลอนซึ่งช่วยเก็บกัก CSOs และส่งไปยังโรงงานบำบัดน้ำเสียแอดวานซ์บลูเพลนส์ (Blue Plains Advanced Wastewater Treatment Plant) ระบบอุโมงค์แม่น้ำอนาคอสเทียและแม่น้ำโพโทแม็คมีอุโมงค์ความยาวมากกกว่า ๑๘ ไมล์ สร้างอยู่ลึกใต้ดินมากกว่า ๑๐๐ ฟุต โครงการแม่น้ำสะอาดของเขตดี.ซี.จะลด CSOs ต่อปีลงร้อยละ ๙๖ ตลอดทั้งระบบและลดลงร้อยละ ๙๘ ของแม่น้ำอนาคอสเทียที่เดียว นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังลดโอกาสการเกิดอุทกภัยในพื้นที่ซึ่งมีท่อดังกล่าวอยู่และลดการปล่อยก๊าซไนโตรเจนลงสู่อ่าวเชซาพีค
หมู่เกาะคิงแมนและเฮอริเทจ
ผลลัพธ์จากการขุดลอกแม่น้ำอนาคอสเทียเมื่อกว่า ๑๐๐ ปีที่ผ่านมา หมู่เกาะคิงแมนและ
เฮอริเทจในปัจจุบันเป็นบ้านของระบบนิเวศน์วิทยาที่สำคัญและหาชมได้ยาก ได้แก่ พื้นที่ชุ่มน้ำลุ่มน้ำจืดที่มีน้ำท่วมถึงและป่าพรุ ดังนั้น หมู่เกาะเหล่านี้จึงกล่าวได้ว่าเป็นที่อยู่ของนก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และสัตว์ป่าชนิดอื่น ๆ มากกว่า ๑๐๐ สายพันธุ์ ด้วยเหตุนี้ ในเดือนมกราคม ค.ศ. ๒๐๑๘ เขตดี.ซี.ได้กำหนดให้หมู่เกาะทั้งสองแห่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์ของรัฐ (State Conservation Area) และพื้นที่ทางใต้ของเกาะคิงแมนเป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธ์สัตว์ที่สำคัญ (Critical Wildlife Area) การกำหนดดังกล่าวจำกัดการใช้พื้นที่หมู่เกาะดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษาและสันทนาการเท่านั้น นอกจากนั้น เขตดี.ซี.ยังทุ่มเงินลงทุนจำนวน ๔.๗ ล้านดอลลาร์เพื่อเป็นงบประมาณสำหรับการเป็นห้องเรียนกลางแจ้ง ห้องน้ำ และเส้นทางที่ช่วยให้เข้าถึงได้และทางเดินสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อเดินทางสู่หมู่เกาะเหล่านี้ การปรับปรุงเหล่านี้จะเป็นการใช้ประโยชน์ของหมู่เกาะที่มากยิ่งขึ้นจากทั้งผู้อยู่อาศัยของเขตและผู้มาเยือน ซึ่งในทางกลับกันจะช่วยขยายแผนงานของโรงเรียนและอาสาสมัครที่มีอยู่เดิม เกาะคิงแมนยังเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสำหรับกิจกรรมทางวัฒนธรรม เช่น เทศกาลประจำปี Bluegrass Festival ซึ่งทำให้ประชาชนรู้จักพื้นที่ทางธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ท่ามกลางแม่น้ำอนาคอสเทียแห่งนี้มากยิ่งขึ้น
กรอบการทำงานด้านกฎหมายที่ก้าวหน้าเพื่อความยั่งยืน
นับตั้งแต่ปี ค.ศ. ๒๐๐๓ การทำงานร่วมกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของกลุ่มผู้ให้คำปรึกษาทั้งภาคประชาชนและบริษัทที่ไม่หวังผลกำไร ร่วมกับหน่วยงานรัฐบาลของเขตดี.ซี.และผู้ออกนโยบาย ได้ทำให้มาตรการด้านกฎหมายมีความก้าวหน้าซึ่งมีความสำคัญในการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมของแม่น้ำอนาคอสเทีย การบัญญัติกฎหมายและความตกลงใหม่ ๆ ซึ่งพ่วงด้วยอำนาจศาลที่ใช้ร่วมกับพื้นที่ลุ่มน้ำอนาคอสเทียช่วยลดปริมาณถุงพลาสติกและภาขนะโพลีลีสไตรีน (โฟม) ในแม่น้ำ ทำให้เกิดการจัดหาเงินทุนอย่างยั่งยืนเพื่อทำความสะอาดแม่น้ำและการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ให้แนวทางเพื่อสร้างพื้นที่ชุ่มน้ำ ฟื้นฟูและอนุรักษ์ และเริ่มต้นกลไกการจัดหาเงินทุนแนวใหม่เพื่อโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่ลดการไหลของน้ำฝนลงสู่ทางน้ำอนาคอสเทีย การรับเอาสถานที่ตัวอย่างและมาตรฐานการก่อสร้างเพื่อการออกแบบด้านสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการน้ำฝนมาใช้ยังช่วยป้องกันมิให้มีปริมาณมลภาวะอินทรีย์และเคมีภัณฑ์ไหลลงสู่แม่น้ำ วิสัยทัศน์ความยั่งยืนที่ท้าทายของเขตดี.ซี.ที่บรรจุไว้ในแผนเขตดี.ซี.ที่ยั่งยืนช่วยชี้นำการทำงานเหล่านี้ได้มาก และเมื่อเร็ว ๆ นี้ เขตดี.ซี.ได้พัฒนาแผน ของเขตดี.ซี.เพื่อพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Ready DC เพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่ความยืดหยุ่นต่ออุทกภัยที่เพิ่มขึ้นและปัญหาระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศอื่น ๆ ต่อเขตดี.ซี.
การอนุรักษ์เพื่อเป็นสวนสาธารณะและจุดหมายปลายทาง
ในปี ค.ศ. ๒๐๑๘ มีการกำหนดให้หมู่เกาะคิงแมนและเฮอริเทจเป็นพื้นที่อนุรักษ์ของรัฐ (State Conservation Areas) แห่งแรกของเขตดี.ซี. พระราชบัญญัตินี้เป็นสัญญาณของพันธกิจแบบถาวรในระยะยาวเพื่อการอนุรักษ์ ในขณะเดียวกันก็ให้หลักประกันเรื่องทรัพยากรของสวนสาธารณะสำหรับชุมชนที่ตั้งอยู่รายรอบ พื้นที่อันเป็นเอกลักษณ์เพื่อการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม และจุดหมายปลายทางเพื่องานกิจกรรมต่าง ๆ นอกจากนี้ ความพยายามในการทำความสะอาดและการอนุรักษ์บริเวณพื้นที่ของทั้งสองหมู่เกาะตลอดแนวแม่น้ำอนาคอสเทียและริมชายฝั่งที่เพิ่มมากขึ้นได้กระตุ้นให้สัตว์ป่ากลับมาอีกครั้ง ปัจจุบัน พื้นที่ของแม่น้ำเป็นที่ตั้งของพื้นที่ชุ่มน้ำน้ำจืดที่น้ำท่วมถึง สระน้ำตามฤดูกาลที่ให้ที่อยู่อาศัยสำหรับสัตว์และพืช ทุ่งดอกไม้ป่า ป่าพรุน้ำท่วมถึง และนก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และสัตว์ป่าชนิดอื่น ๆ นับร้อยสายพันธุ์
การศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ
เยาวชนคือผู้ดูแลแม่น้ำอนาคอสเทียที่สะอาดและอุดมสมบูรณ์ในอนาคต และแม่น้ำเองก็เป็นแหล่งของงานสำหรับคนในอนาคต เขตดี.ซี.คงพันธกิจในการฝึกอบรมและระดมเยาวชนของเขตดี.ซี.เพื่อการทำความสะอาดและศึกษาแม่น้ำ พร้อมส่งเสริมการใช้งานเชิงสันทนาการผ่านการศึกษาและการมีส่วนร่วมของเยาวชน จากการดำเนินโครงการสิ่งแวดล้อมพื้นที่สีเขียวช่วงฤดูร้อนแก่เยาวชนและการศึกษาเพื่อการคุ้มครองพื้นที่ลุ่มน้ำและการฝึกงานแก่คนหนุ่มสาว หน่วยงานของเขตดี.ซี.ได้ฝึกอบรมประชากรรุ่นเยาว์กว่า ๑,๐๐๐ คนโดยมีการทำความสะอาดแม่น้ำ ปลูกต้นไม้ และสร้างพื้นที่ชุ่มน้ำ
การขนส่ง
การลงทุนของรัฐด้านโครงสร้างการขนส่งสาธารณะสำหรับเมืองในศตวรรษที่ ๒๑ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ได้เชื่อมโยงชุมชนบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียเข้าด้วยกัน การเข้าถึงพื้นที่ริมน้ำของประชาชนได้รับการฟื้นฟู สร้างเครือข่ายการขนส่งบริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำอย่างยั่งยืนและมีความเชื่อมโยง และทางเลือกในการเดินทางที่เพิ่มขึ้นสำหรับพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งอยู่ติดกัน
รัฐบาลของเขตดี.ซี.และหุ้นส่วนภาคเอกชนและบริษัทที่ไม่แสวงผลกำไรได้ทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาและสร้างโอกาสเชิงสันทนาการใหม่ ๆ ตลอดแนวพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย ปัจจุบัน ประสบการณ์ที่หลากหลายบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำได้เปิดโอกาสให้ประชากรและผู้มาเยือนได้เล่นและไปมาหาสู่ทั้งทางบกและทางน้ำ
วัตถุประสงค์ของโครงการฯ เพื่อการขนส่ง
- เชื่อมต่อเส้นถนนของเมืองกับสวนสาธารณะบริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำอีกครั้ง
- จัดให้มีเส้นทางสำหรับผู้เดินเท้าและการใช้จักรยานที่ครอบคลุมตลอดพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ
- ออกแบบทางหลวงและถนนที่ไม่จำกัดความเร็วใหม่เพื่อให้มีสิ่งกีดขวางน้อยลงระหว่างพื้นที่ใกล้เคียงสวนสาธารณะบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ
- ออกแบบสะพานข้ามแม่น้ำอนาคอสเทียใหม่ในรูปแบบดั้งเดิมแห่งสถาปัตยกรรมประชาชนที่ยิ่งใหญ่
- สร้างถนนภายในเมืองที่ยอดเยี่ยมโดยมีการใช้ประโยชน์แบบหลากหลาย การปรับภูมิทัศน์ และพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับประชาชน
- ส่งเสริมอย่างเต็มที่เพื่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขนส่งสาธารณะไปสู่โหมดที่ประหยัดพลังงาน
โครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงพื้นที่ตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน
ในปี ค.ศ. ๒๐๐๓ การเข้าถึงพื้นที่ริมแม่น้ำของประชาชนยังไม่เพียงพอ และแม่น้ำอนาคอสเทียเองก็เป็นเส้นแบ่งระหว่างชุมชน ถูกแยกออกจากพื้นที่ใกล้เคียงโดยระบบทางหลวงภูมิภาค นับตั้งแต่นั้น เขตดี.ซี. ได้นำสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่มาแทนที่ของเดิมซึ่งล้าสมัยและเสื่อมโทรมและปรับโฉมโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการขนส่งใหม่บริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเป็นลักษณะเครือข่ายซึ่งช่วยในการเข้าถึงสาธารณะของประชากร ผู้เดินทางและผู้มาเยือน พร้อมทั้งปรับปรุงคุณภาพด้านสิ่งแวดล้อมของพื้นที่ พร้อมจัดทางเลือกใหม่สำหรับคนเดินเท้า ผู้ขี่จักรยาน ผู้เดินทางที่มาแวะพัก และผู้ขับขี่รถ โครงการเหล่านี้ได้เชื่อมโยงชุมชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำและมีการไปมาหาสู่อีกครั้ง การเชื่อมโยงพื้นที่ใกล้เคียงทางกายภาพที่ตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำยังเป็นหลักประกันว่าประชากรจะได้รับประโยชน์ร่วมมากขึ้นจากการฟื้นฟู กล่าวคือ การเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจที่มากยิ่งขึ้น
การเข้าถึงพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำสาธารณะอย่างเท่าเทียมกัน
ในช่วงต้นศตวรรษที่ ๒๐ มีเส้นทางที่สะดวกสำหรับการเข้าถึงแม่น้ำอนาคอสเทียจำนวนน้อย จึงเป็นการจำกัดความสามารถในการเดินทางตามลำน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณริมฝั่งแม่น้ำก็ขาดแคลน จากสิ่งที่เห็น ปัจจุบันประชาชนสามารถเข้าถึงพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโดยใช้การขนส่งสาธารณะ การเชื่อมโยงถนนใหม่ ๆ ที่มีความสวยงาม สะพานที่โดดเด่น สวนสาธารณะบริเวณแม่น้ำอนาคอสเทียทั้งแหล่งใหม่และแหล่งปรับปรุง เพื่อเป็นการเชื่อมโยงกิจกรรมทั้งหมดตลอดพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ เส้นทางเดินริมฝั่งแม่น้ำอนา- คอสเทียระยะทางยาวเกือบ ๒๐ ไมล์ได้เชื่อมโยงพื้นที่ใกล้เคียงบริเวณริมแม่น้ำจำนวนมากที่ตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งแม่น้ำและปฏิรูปการเข้าถึงของประชาชนบริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำ การเชื่อมโยงของการขนส่งที่ได้รับการปรับปรุงได้ขยายการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำทั้งแหล่งเก่าและแหล่งใหม่ และสร้างความเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ใกล้เคียงริมฝั่งแม่น้ำกับภูมิภาค โครงการพัฒนาต่าง ๆ เช่น โครงการ Parkside Pedestrian Bridge ได้เชื่อมโยงชุมชนต่าง ๆ เข้าด้วยกันและเข้ากับพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกแยกออกโดยโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นทางหลวง
ทางเลือกด้านการขนส่งสาธารณะที่ขยายตัว เขตดี.ซี.ได้ขยายทางเลือกการขนส่งสาธารณะสู่ชุมชนริมฝั่งแม่น้ำโดยการเพิ่มเส้นทางของระบบการเดินรถบัสประจำทาง หรือ DC Circulator รถราง และการแบ่งปันจักรยาน ตลอดจนถนนที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อช่วยให้เดินและขี่จักรยานได้ดีขึ้น การพัฒนาตามพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ โดยเฉพาะที่ดินสาธารณะที่รกร้าง พื้นที่ขนาดใหญ่ และที่ดินซึ่งเคยใช้ในการอุตสาหกรรมได้ใช้ประโยชน์จากการที่อยู่ใกล้เคียงกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีเขียว สีน้ำเงิน สีส้มและสีเงิน โดยการสร้างรูปแบบกิจกรรมบริเวณสถานี โครงการพัฒนาใหม่ ๆ เช่น The Wharf ถูกมองว่าเป็นโอกาสในการเสริมระบบการขนส่งสาธารณะโดยใช้ทางเลือกที่เป็นทุนจากภาคเอกชน เช่น การบริการรถรับส่งแบบหมุนเวียนไปกลับจาก The Wharf ไปยังสถานีรถไฟใต้ใต้ดิน และบริการแท็กซี่ทางน้ำแห่งใหม่
การเชื่อมต่อที่รองรับชุมชนใกล้เคียง
เขตดี.ซี.ได้ทำงานเพื่อย้ายการจราจรระดับภูมิภาคออกจากถนนท้องถิ่นเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศและเพื่อให้รองรับพื้นที่ใกล้เคียงริมฝั่งแม่น้ำได้ดียิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญลำดับต้น ๆ กับการเข้าถึงในท้องถิ่นและพื้นที่ใกล้เคียงที่มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น เป้าหมายสำหรับทางหลวงและเส้นทางที่ไม่จำกัดความเร็วที่วางกรอบแม่น้ำอนาคอสเทีย คือ ให้มีสิ่งกีดขวางทางกายภาพและสายตาสู่พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำและพื้นที่ใกล้เคียงที่อยู่ติดกันน้อยลง การวางแผนและการออกแบบในเบื้องต้นสำหรับถนนหลวง Southeast Boulevard สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามนี้ และสร้างภาพทางหลวงให้เป็นถนนหลวงในท้องถิ่น เขตดี.ซี.ยังได้มีเปลี่ยนเอาสะพานที่ไม่สวยงาม เก่า และมีลักษณะเหมือนทางด่วน ซึ่งเดิมออกแบบมาสำหรับการจราจรระดับภูมิภาคซึ่งไม่สนับสนุนการเดินและการขี่จักรยานออกไป โครงการสะพานถนนสายที่ ๑๑ มาทดแทนสะพานสองแห่งซึ่งสร้างในช่วงทศวรรษที่ ๖๐ ด้วยสะพานที่สร้างขึ้นใหม่สามแห่งซึ่งแยกการจราจรระดับท้องถิ่นและถนนที่ไม่จำกัดความเร็วออกจากกัน โดยมีทางเท้าที่กว้าง ช่วยลดปริมาณการจราจรระดับภูมิภาคบนถนนสายต่าง ๆ ในพื้นที่ Historic Anacostia
ถนนหลวงในเขตเมืองและภูมิทัศน์ถนนที่ยั่งยืน
ถนนหลวงและถนนสายอื่น ๆ ที่มุ่งสู่แม่น้ำอนาคอสเทียได้รับการออกแบบเพื่อรูปแบบการขนส่งทุกชนิดและเพื่อรองรับพื้นที่ใกล้เคียง จากถนน M Street ด้านตะวันตกเฉียงใต้/ตะวันออกเฉียงใต้ ไปจนถึงถนน Kenilworth Avenue เขตดี.ซี.ได้ศึกษาถึงวิธีการที่จะเข้าถึงพื้นที่สำคัญ เป็นมิตรกับคนเดินเท้า และดึงดูดใจมากยิ่งขึ้น ตัวอย่าง เช่น ถนน South Capitol Street เคยเป็นระเบียงหลักในแผนหลักของกรุงวอชิงตันปี ค.ศ. ๑๙๗๑ ของ Pierre L’Enfant และได้วาดภาพให้เป็นหนึ่งในประตูสู่เมืองอันเป็นสัญลักษณ์ แต่ก็ได้สูญเสียลักษณะเฉพาะของบทบาทที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ไป โครงการ South Capitol Street Corridor กำลังแทนที่สะพานอนุสรณ์เฟรเดอริค ดักลาส (Frederick Douglass Memorial Bridge) เพื่อสร้างประตูอันมีความโดดเด่นขณะที่ดำเนินการปฏิรูปถนนที่ไม่จำกัดความเร็วในเขตเมืองให้เป็นถนนที่สวยงามขนาดความกว้างหกช่องทางจราจรพร้อมภูมิทัศน์ การฟื้นฟูถนนแบบตาราง (grid) ที่ออกแบบโดย Pierre L’Enfant กำลังก้าวสู่ความสำเร็จด้วยการสร้างถนนสายที่ 4 ตะวันตกเฉียงใต้ (the 4th Street SW) ระหว่าง ถนน M กับ ถนน “I” ขึ้นใหม่ บริเวณรถไฟฟ้าใต้ดิน Waterfront Metro โดยถนนสายที่ 4 ตะวันตกเฉียงใต้นี้เป็นถนนที่รองรับพื้นที่ใกล้เคียงโดยมีการค้าปลีก สำนักงาน ที่อยู่อาศัย และดำเนินการให้เป็นพื้นที่ทางสังคมและจุดศูนย์รวมของชุมชน
สะพานอนุสรณ์เฟรเดอริค ดักลาส
โครงการสะพานอนุสรณ์เฟรเดอริค ดักลาส แห่งใหม่จะเชื่อมโยงพื้นที่ฝั่งตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำอนาคอสเทียเข้าด้วยกันโดยการกับปรุงการเข้าสู่พื้นที่ของผู้เดินเท้าและจักรยานให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอสถาปัตยกรรมประชาชนที่ทรงคุณค่าจากการที่เป็นสัญลักษณ์ของการตั้งชื่อบุคคลตามตำนานแห่งอิสรภาพและความเป็นหนึ่งเดียว สะพานอนุสรณ์เฟรเดอริค ดักลาส แห่งใหม่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ South Capitol Street Corridor ซึ่งจะดำเนินการแล้วเสร็จในสองระยะและเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สุดของเขตดี.ซี. ด้วยงบประมาณดำเนินการระยะแรกจำนวน ๔๔๑ ล้านเหรียญ เขตดี.ซี.ได้รับการอนุมัติเป็นพิเศษจากรัฐบาลกลางกำหนดให้งานที่เกี่ยวข้องกับโครงการใหม่นี้ร้อยละ ๕๑ ดำเนินการโดยประชากรของเขตดี.ซี. นอกจากนี้ สัญญาออกแบบทั้งหมดอย่างน้อยร้อยละ ๑๓ และสัญญาการก่อสร้างร้อยละ ๒๒ ต้องให้วิสาหกิจธุรกิจสถานะรองที่ได้รับการรับรองเป็นผู้รับเหมาช่วงซึ่งทำให้เป้าหมายสำเร็จได้อย่างรวดเร็วกว่าโครงการใหญ่ก่อนหน้านี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้ โครงการนี้ได้เสนอการพัฒนาแรงงาน การทำสัญญา และโอกาสการจ้างงาน รวมถึงโอกาสการฝึกงานแบบ on-the-job training สำหรับเจ้าหน้าที่ออกแบบ และพนักงานทางการค้าและพนักงานของผู้รับเหมา
เส้นทางเดินริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย (Anacostia Riverwalk Trail)
เส้นทางเดินริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียถือเป็นกระดูกสันหลังของพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย โดยเชื่อมโยงผู้อยู่อาศัย ผู้เยี่ยมชม และชุมชนริมฝั่งแม่น้ำ และเป็นจุดหมายปลายทางด้านการค้า วัฒนธรรม และสันทนาการจำนวนมากเข้าไว้ด้วยกัน เส้นทางเดินริมฝั่งแม่น้ำนี้เป็นเส้นทางอเนกประสงค์เลียบฝั่งตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำอนาคอสเทีย โดยเส้นทางยาว ๑๙.๕ ไมล์จากทั้งหมด ๒๘ ไมล์ได้เปิดให้บริการแล้วและมีการใช้งานอย่างคึกคัก นอกจากสันทนาการแล้ว เส้นทางฯ ดังกล่าวยังเป็นทางเลือกด้านการขนส่งสำหรับผู้ที่เดินทางไปมาระหว่างเขตดี.ซี.กับเขตปริ๊นจอร์จในมลรัฐแมริแลนด์ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและมีทิวทัศน์ที่งดงามสำหรับผู้เดินเท้าและผู้ขี่จักรยานเลียบแม่น้ำไปยังตลาดปลา สนามเบสบอล Nationals Park พื้นที่ Historic Anacostia สนามกีฬาอนุสรณ์ Robert F. Kennedy สวนรุกชาติแห่งชาติ และชุมชนในเขตดี.ซี. อีกหลายแห่งที่อยู่ระหว่างอ่างเก็บน้ำไทดอลเบซินและเขตแดนมลรัฐแมริแลนด์ ตัวเส้นทางฯ ดังกล่าวเองก็ยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยเชื่อมต่อจุดหมายปลายทางแบบกลางแจ้งเลียบฝั่งแม่น้ำ เช่น สวนสาธารณะยาร์ด สวนสาธารณะไดมอนด์ ทีค สวนสาธารณะอนาคอสเทีย และสวนสัตว์น้ำเคนิลเวิร์ธ ส่วนหนึ่งของเส้นทางฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ของสวนสัตว์น้ำเคนิลเวิร์ธซึ่งมีทัศนียภาพน่าตื่นตาเป็นระยะทางยาวสี่ไมล์นี้ สร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ. ๒๐๑๖ ขยายจากถนนเบนนิ่งตะวันออกเฉียงเหนือไปยังเส้นทางบลันเดนเบิร์กในมลรัฐแมริแลนด์ ทำให้การเชื่อมต่อเส้นทางในภูมิภาคระยะทางกว่า ๔๐ ไมล์ภายในพื้นที่ลุ่มน้ำนี้มีความสมบูรณ์
สวนสาธารณะ
ด้วยพื้นที่ป่าและพื้นที่เปิดโล่งขนาด ๑,๖๖๐ เอเคอร์ พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียปัจจุบัน มีลักษณะเป็นเครือข่ายสวนสาธารณะขนาดใหญ่และมีความหลากหลาย และพร้อมมอบประสบการณ์สันทนาการซึ่งช่วยให้ผู้อยู่อาศัยเข้าถึงน้ำและธรรมชาติมากยิ่งขึ้นและยังส่งเสริมการพิทักษ์รักษาภายในท้องถิ่นด้วย
รัฐบาลเขตดี.ซี. และหุ้นส่วนเอกชนที่ไม่หวังผลกำไรได้ทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงและสร้างโอกาสด้านสันทนาการใหม่ ๆ ตลอดบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย โดยประสบการณ์ริมฝั่งแม่น้ำที่หลากหลายในปัจจุบันได้ให้โอกาสแก่ผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือนได้ผ่อนคลายและเชื่อมต่อทั้งดินและน้ำเข้าไว้ด้วยกัน
เป้าหมายโครงการฯ สำหรับสวนสาธารณะ
- พัฒนาปรับปรุงพื้นที่ป่าริมฝั่งแม่น้ำซึ่งไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้กลายเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะที่สำคัญ
- ปรับปรุงการเดินทางวนและระหว่างพื้นที่เปิดโล่งริมฝั่งแม่น้ำเพื่อสร้างระบบสวนสาธารณะที่เชื่อมต่อถึงกัน
- ทำให้มั่นใจว่ามีการเข้าถึงบริเวณริมฝั่งแม่น้ำอย่างต่อเนื่องสำหรับคนเดินเท้าและผู้ขี่จักรยาน
- เพิ่มโอกาสด้านสันทนาการในระบบสวนสาธารณะริมแม่น้ำ
- สร้างจุดหมายปลายทางด้านสวนสาธารณะที่โดดเด่นบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ระดับภูมิภาคและระดับชาติ
สวนสาธารณะที่เป็นสัญลักษณ์แห่งใหม่และสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ที่ปรับปรุงให้ดีขึ้น
พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียบรรจบกับพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโพโทแม็ค สวนสาธารณะ National Mall และสวนสาธารณะร็อคครีก ซึ่งถือเป็นเครือข่ายพื้นที่เปิดโล่งด้านสันทนาการที่สำคัญแห่งหนึ่งของเขตดี.ซี. และยังคงดึงดูดผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือนจากทั่วทุกภูมิภาค นับตั้งแต่การดำเนินโครงการฯ การลงทุนจากภาครัฐบาลและเอกชนได้กระตุ้นที่ดินเชิงสันทนาการในความครอบครองของทั้งท้องถิ่นและรัฐบาลกลางบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย การก่อสร้างสวนสาธารณะแห่งใหม่ ๆ ได้ทำให้มีพื้นที่สวนสาธารณะรวมกันทั้งหมดเกือบ ๑,๗๐๐ เอเคอร์ในพื้นที่ของโครงการฯ โดยมีอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกจำนวน ๒๓ แห่งในพื้นที่ศึกษาได้รับการพัฒนาหรือปฏิสังขรณ์ ประกอบด้วย ศูนย์สันทนาการแห่งใหม่สองแห่ง สนามเด็กเล่น ๑๑ แห่ง สระว่ายน้ำใหม่สองแห่ง และเวทีชกมวยสองแห่ง หน่วยงานระดับรัฐเขตและระดับรัฐบาลกลางได้ทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาดร่วมกับภาคเอกชนและองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อปรับปรุง ตั้งโปรแกรม และให้มีการเข้าถึงพื้นที่สันทนาการที่มีเทคโนโลยีสูงทั่วทั้งพื้นที่ที่ได้รับผลจากโครงการฯ ด้วยเหตุนี้ พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียจึงมีกิจกรรมเชิงสันทนาการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญทั้งทางบกและทางน้ำ
การเข้าถึงและการเชื่อมต่อสวนสาธารณะ
สิ่งอำนวยความสะดวกด้านสันทนาการและการขนส่งใหม่ได้ปลดล็อกการเข้าถึงโอกาสเชิงสันทนาการบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย ปัจจุบัน เส้นทางเดินริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย (Anacostia Riverwalk Trail) ซึ่งเป็นเครือข่ายที่เกือบเสร็จสมบูรณ์ได้เชื่อมต่อแม่น้ำ สวนสาธารณะที่มีอยู่เดิม และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ เข้าด้วยกันกับพื้นที่ใกล้เคียงริมฝั่งแม่น้ำ สะพานคนเดินเส้นทางเดินริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย (Anacostia Riverwalk Trail Pedestrian Bridge) ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนของทางเดินที่สร้างขึ้นใหม่หลายจุด ปัจจุบันกำลังดำเนินการและจะเชื่อมต่อคนเดินเท้าและผู้ขี่จักรยานระหว่างสวนรุกชาติแห่งชาติและสวน Kenilworth ป้ายบอกทางที่มีการปรับปรุง ป้ายสัญญาณที่มีความต่อเนื่อง และการปรับปรุงเส้นทางและแสงสว่างช่วยนำผู้มาเยือนสู่และผ่านสวนสาธารณะและเส้นทางเดินทั้งที่สร้างใหม่และที่มีอยู่เดิม ทำให้สิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญเหล่านี้นำทางและเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น และเมื่อพื้นที่สีเขียวอย่างเช่นสวนสาธารณะยาร์ดส์และสวนสาธารณะวอร์ฟตั้งอยู่บริเวณศูนย์กลางของพื้นที่ใกล้เคียง พื้นที่สันทนาการต่าง ๆ จะสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นโดยทั้งการเดินเท้า การต่อรถ หรือแม้แต่ทางเรือ – แท็กซี่ทางน้ำที่รับส่งผู้โดยสารไป – กลับจากสวนสาธารณะโพโทแม็ค
ความหลากหลายของประสบการณ์
ผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือนต่างตกปลา พายเรือ และพายเรือคะยัคในแม่น้ำอนาคอสเทีย และเนื่องจากความพยายามในการทำความสะอาดแม่น้ำอนาคอสเทียได้นำไปสู่คุณภาพน้ำที่ดีขึ้น เขตดี.ซี. ยังคงเป้าหมายที่จะทำให้แม่น้ำใช้ว่ายน้ำได้ภายในปี ค.ศ. ๒๐๓๒ บนฝั่ง เส้นทางเดินริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสันทนาการมักใช้เพื่อการขนส่งและการออกกำลังกาย ในขณะที่สวนสาธารณะคิงแมนได้กลายเป็นพื้นที่ซึ่งได้รับความนิยมสำหรับการดูนกและโครงการด้านการศึกษา สวนสาธารณะต่าง ๆ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียต่างมีสีสันด้วยงานเทศกาลต่าง ๆ ตลอดปี เช่น งานเทศกาลประจำปี Bluegrass and Folk Festival ณ สวนสาธารณะเกาะคิงแมนและเทศกาลแม่น้ำอนาคอสเทีย ณ สวนสาธารณะอนาคอสเทีย สวนสาธารณะยาร์ดส์และสวนสาธารณะคะแนลต่างให้ประสบการณ์ของสวนสาธารณะในเขตเมือง และมีชีวิตชีวาอย่างสม่ำเสมอด้วยกิจกรรมประจำฤดูกาลและการเรียนการสอนด้านการพัฒนาสมรรถภาพทางกาย
การพิทักษ์รักษาและการกำหนดแผนงานโครงการ
ความช่วยเหลือจากภาคส่วนต่าง ๆ มีความจำเป็นเพื่อเป็นหลักประกันเรื่องความปลอดภัย การซ่อมบำรุง และการประเมินคุณค่าของสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำของเขตดี.ซี. อย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นส่วนเหล่านี้ประกอบด้วยเขตดี.ซี. กรมอุทยานแห่งชาติ (National Park Service) เขตปรับปรุงธุรกิจในท้องถิ่น (BIDs) สมาคมชุมชนจำนวนมาก และองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร เขตปรับปรุงธุรกิจเซาท์เวสต์ และเขตปรับปรุงธุรกิจ Capital Riverfront ได้ว่าจ้างพนักงานสมาชิกจำนวน ๑๗ คนและ ๑๘ คนตามลำดับ เพื่อรับประกันว่าสวนสาธารณะภายในเขตพื้นที่เหล่านี้มีความปลอดภัยและสะอาด โครงการลาดตระเวนเส้นทางเดินริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย ซึ่งเป็นพันธมิตรระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติและและสมาคมจักรยานพื้นที่กรุงวอชิงตัน เปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีปฏิสัมพันธ์กับเส้นทางเดินริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียผ่านแผนงานด้านการศึกษาและบริการชุมชน ขณะที่องค์กรอย่าง Anacostia Community Boathouse Association ยังคงให้การศึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับวัฒนธรรมริมฝั่งแม่น้ำพร้อมกับเปิดโอกาสด้านสันทนาการราคาไม่แพง
สวนสาธารณะอนาคอสเทีย
เนื่องในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปีในปี ค.ศ. ๒๐๑๘ สวนสาธารณะอนาคอสเทียได้รับการฟื้นฟูให้เป็นศูนย์กลางเพื่อการสันทนาการโดยมีการให้คำปรึกษา การวางแผน และการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามนี้ กรมอุทยานแห่งชาติได้ยกระดับความพยายามในการวางแผนด้านสวนสาธารณะผ่านแผนการจัดการสวนสาธารณะอนาคอสเทียและการประเมินด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเอกสารแนวทางการดำเนินงานที่ครอบคลุมซึ่งชี้นำการพัฒนาสวนสาธารณะและการจัดทำแผนงานโครงการระยะยาว กรมอุทยานแห่งชาติได้กำหนดการปรับปรุงครั้งสำคัญสำหรับสวนสาธารณะอนาคอสเทีย โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณ Central Park ซึ่งจะช่วยปกป้องระบบนิเวศน์วิทยาของสวนสาธารณะและให้พื้นที่เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจและวัฒนธรรมกับผู้อยู่อาศัยในเขตดี.ซี.เองและผู้ที่มาจากที่อื่น องค์กรสวนสาธารณะอนาคอสเทียและความร่วมมือชุมชน (Anacostia Park and Community Collaborative) เป็นเครือข่ายซึ่งประกอบด้วยองค์กรอย่าง อนาคอสเทีย วอเตอร์ฟรอนต์ ทรัสต์ (Anacostia Waterfront Trust) ดี.ซี.แอปเปิลซีด (DC Appleseed) และอนาคอสเทียบีไอดี (Anacostia BID) เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสนับสนุนของชุมชนในการปรับปรุงสวนสาธารณะอนาคอสเทีย พื้นที่ริมแม่น้ำ และพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งอยู่ติดกันบริเวณเขตที่ ๗ และ ๘ ด้วยการเปลี่ยนการให้คำปรึกษาให้เป็นการปฏิบัติ องค์กรที่ชื่อว่า Building Bridges Across the River (การสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ) ได้เป็นผู้นำในการพัฒนาโครงการสวนสาธารณะสะพานถนนสายที่ ๑๑ และตอบสนองต่อความพยายามในการพัฒนาอย่างเท่าเทียมกัน นอกจากสร้างประสบการณ์เกี่ยวกับสวนสาธารณะในอนาคตที่น่าตื่นเต้นและเป็นเอกลักษณ์แล้ว สวนสาธารณะสะพานถนนสายที่ ๑๑ ยังได้เชื่อมโยงพื้นที่ใกล้เคียงทั้งสองฝั่งแม่น้ำและทำให้เกิดการปรับปรุงการเข้าถึงสวนสาธารณะอนาคอสเทียจากย่าน Capitol Riverfront และ Capitol Hill ด้วย
จุดหมายปลายทาง
ได้มีการเปิดตัวสนามกีฬาแห่งใหม่ สถานที่ด้านวัฒนธรรมและการแสดง สวนสาธารณะ และพิพิธภัณฑ์บริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียต่อผู้อยู่อาศัยจากทั้งในเขตดี.ซี. ในภูมิภาคและที่ไกลกว่านั้น
สถานที่ทางวัฒนธรรม กีฬาและความบันเทิงทั้งแหล่งใหม่และที่มีการปรับปรุงบริเวณพื้นทีริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียได้รวมเป็นเครือข่ายของสวนสาธารณะและพื้นที่สาธารณะที่ได้รับการฟื้นฟูเพื่อดึงดูดผู้อยู่อาศัยในเขตดี.ซี.และผู้มาเยือนทั้งจากใกล้และไกล โครงการจุดหมายปลายทางเพิ่มเติมกำลังดำเนินงานเพื่อสนับสนุนพื้นที่ใกล้เคียงที่กำลังเติบโตและมีการฟื้นฟูและศูนย์กลางของงานบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ
เป้าหมายของโครงการฯ สำหรับการเป็นจุดหมายปลายทาง
- สร้างริมแม่น้ำที่น่าจดจำซึ่งเกี่ยวข้องอย่างเหมาะสมกับลุ่มน้ำแต่ละแห่ง
- เน้นลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์ของมรดกที่เกี่ยวกับแม่น้ำและลุ่มน้ำ รวมถึงองค์ประกอบทางธรรมชาติและเขตเมือง
- ทำให้แม่น้ำอนาคอสเทียเป็นจุดหมายปลายทางระดับภูมิภาคสำหรับกิจกรรมหรือการจัดงานพิเศษ เช่น การแสดงดนตรีและการแข่งขันกีฬา
- สร้างจุดหมายปลายทางด้านสวนสาธารณะแห่งใหม่สำหรับการแสดงดนตรีและปิกนิกของประชาชน และเทศกาลในพื้นที่ใกล้เคียงระดับท้องถิ่น
- เสาะแสวงหาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำที่ส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งต่อทรัพย์สินที่มีอยู่เดิมโดยสถาบันทางวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นใหม่เริ่มมองหาสถานที่นอกเหนือจากสวนสาธารณะ National Mall
พื้นที่ริมแม่น้ำเพื่อวัฒนธรรมและดนตรีของเขตดี.ซี.
ความหลากหลายของการเฉลิมฉลองด้านดนตรีและวัฒนธรรมช่วยนำผู้มาเยือนหน้าใหม่และขยายกลุ่มผู้มาเยือนสู่พื้นที่ริมแม่น้ำอนาคอสเทีย พื้นที่ทางวัฒนธรรมและสถานที่จัดแสดงดนตรีทั้งแหล่งใหม่และที่ได้รับการปรับปรุง เช่น โรงละคร Arena Stage ศูนย์ศิลปะอนาคอสเทีย สถานที่จัดแสดงดนตรีและโรงละครที่ชื่อว่า The Anthem และโกดังถนนเพิร์ล (Pearl Street Warehouse) ตลอดขนสวนสาธารณะและพื้นที่สาธารณะริมฝั่งแม่น้ำหลายแห่งทำให้พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียเป็นจุดหมายปลายทางเพื่อความบันเทิง
พื้นที่ใกล้เคียงในฐานะจุดหมายปลายทาง
พื้นที่ใกล้เคียงริมน้ำของเขตดี.ซี.กลายเป้นจุดหมายปลายทางในตัวเอง จากการที่มีกิจกรรมมากมายที่สร้างความมีชีวิตชีวาให้พื้นที่ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน พื้นที่ใกล้เคียงบริเวณริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย เช่น พื้นที่ Historic Anacostia, Capitol Riverfront, และ Nascent Wharf ต่างนำเสนอประสบการณ์แบบเมืองที่หลากหลายริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย
เป็นเจ้าภาพจัดงานสำคัญ ๆ
พื้นที่ริมแม่น้ำอนาคอสเทียใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญ ๆ ประกอบด้วยการเยือนของสมเด็จพระสันตะปาปาในปี ค.ศ. ๒๐๐๙ และการแข่งขันเบสบอลเมเจอร์ลีกออลสตาร์เกม (Major League Baseball All-Star Game) ในเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. ๒๐๑๘ เทศกาลประจำปี Kingman Island Bluegrass Festival บริเวณเกาะคิงแมนก็ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องและมีความสำคัญระดับภูมิภาคนับตั้งแต่เริ่มจัดครั้งแรกเมื่อ ปี ค.ศ. ๒๐๑๐ ซึ่งดึงดูดผู้มาเยือนนับพันสู่ความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติของแม่น้ำอนาคอสเทีย เทศกาลดนตรีแจ็สเขตดี.ซี. (DC Jazz Festival) ได้จัดขึ้นบริเวณริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียตั้งแต่ปี ค.ศ. ๒๐๑๕ ณ สวนสาธารณะยาร์ดส์ และปีนี้จะจัดที่ The Wharf นับตั้งแต่ปี ค.ศ. ๒๐๑๖ เทศกาล Grace Jamaican Jerk Festival ซึ่งจัด ณ สนามกีฬา RFK Stadium ก็ได้สร้างสีสันบรรยากาศแบบแคริบเบียนบริเวณริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย เทศกาลแม่น้ำอนาคอสเทียซึ่งเดิมคืองานเทศกาลสะพานถนนที่ ๑๑ ในปี ค.ศ. ๒๐๑๓ ก็ได้เชื่อมโยงชุมชนบริเวณสองฝั่งแม่น้ำเข้าด้วยกัน เทศกาลแม่น้ำอนาคอสเทียซึ่งปัจจุบันจัดขึ้นเป็นปีที่ห้าก็มีผู้ร่วมจัดงานได้แก่ องค์กร Building Bridges Across the Anacostia สวนสาธารณะ 11th St Bridge Park และกรมอุทยานแห่งชาติ ซึ่งดึงดูดผู้เข้าร่วมมากกว่า ๑๐,๐๐๐ คน เทศกาลแม่น้ำอนาคอสเทีย (The Anacostia River Festival) เป็นงานคู่ขนานซึ่งจัดขึ้นพร้อมกับงานเทศกาลดอกเชอรรี่บานระดับประเทศ ทำให้มีการเฉลิมฉลองประจำปีที่สำคัญของเขตดี.ซี.บริเวณสวนสาธารณะอนาคอสเทีย
จุดหมายปลายทางสำหรับผู้มาเยือนที่มีความโดดเด่น
ผู้มาเยือนจากทั่วประเทศและทั่วโลกต่างได้เข้าพักในโรงแรมแห่งใหม่บริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำอนาคอสเทีย โดยในปี ค.ศ. ๒๐๑๗ บทความในนิตยสารเทรเวล+เลเชอร์ (“สถานที่ที่ดีที่สุด ๕๐ แห่งที่ควรไปเยือนประจำปี ค.ศ. ๒๐๑๘) และนิตยสารมันนี่ (ย่านพื้นที่ซึ่งผ่อนคลายที่สุด ๑๐ อันดับในอเมริกายุคปัจจุบัน.”) ได้ให้ความสำคัญกับสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ภัตตาคารและพื้นที่สาธารณะที่ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียเป็นเหตุผลหลักในการเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
พบกันที่แม่น้ำอนาคอสเทีย
แม่น้ำอนาคอสเทียเองตอนนี้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อสัมผัสประสบการณ์การพายเรือ สันทนาการที่มีชีวิตชีวา แผนงานด้านการศึกษา งานเทศกาลและการส่องสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางทางเรือโดยมีผู้ดูแลแม่น้ำเป็นผู้นำทาง พบเหยี่ยว ออสเปรย์พร้อมกลุ่มอนุรักษ์โลก Earth Conservation Corps เรียนวิธีการตกปลาที่ศูนย์ทรัพยากรการศึกษาทางน้ำ หรือพายเรือแคนูบริเวณที่น้ำตื้นแถบหมู่เกาะคิงแมนและเฮอริเทจ ผู้อยู่อาศัยในเขตดี.ซี.ทั้งอยู่ดั้งเดิมและที่เข้ามาอยู่ใหม่นับพันต่างสัมผัสประสบการณ์บริเวณแม่น้ำอนาคอสเทียเป็นครั้งแรกเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา คนนับพันต่างสนุกสนานกับงานเทศกาลระดับภูมิภาค เช่น เทศกาลบลูกราส เทศกาลดนตรีแจ็สเขตดี.ซี. และเทศกาลแม่น้ำอนาคอสเทีย ที่จัดขึ้นบริเวณริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย ในขณะเดียวกัน ท่าเรือและเส้นทางเดินริมฝั่งแม่น้ำที่สร้างขึ้นใหม่ก็ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นกันเองและเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นกับสายน้ำ แม่น้ำอนาคอสเทียที่สะอาดขึ้น มีชีวิตชีวามากขึ้นและน่าดึงดูดใจมากขึ้นกลายมาเป็นศูนย์กลางแห่งอัตลักษณ์ภาคประชาชนของเขตดี.ซี. และเป็นสะพานเชื่อมพื้นที่ใกล้เคียงด้านตะวันออก ตะวันตก เหนือและใต้เข้าด้วยกัน
บทสรุป
พื้นที่ทดสอบสำหรับนวัตกรรม
พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียและพื้นที่ใกล้เคียงเป็นดังผืนผ้าใบเพื่อสื่อจินตนาการของเขตดี.ซี.ที่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้ โดยเป็นที่ซึ่งชุดสีแห่งนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์สามารถแต่งแต้มสีสันลงบนผ้าใบผืนนี้ได้ สถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ใช้นำร่องเทคโนโลยีใหม่ ๆ บรรลุความยั่งยืนและความยืดหยุ่นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เข้าถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างครอบคลุม และดึงดูดผู้มีความสามารถและการลงทุน พื้นที่ ริมแม่น้ำอนาคอสเทียสามารถเป็นและจะเป็นพื้นที่ทดสอบสำหรับนวัตกรรมและแรงบันดาลใจของเขตดี.ซี. แสดงถึงรูปแบบความเป็นผู้นำซึ่งดึงดูดความสนใจทั้งระดับชาติและระดับนานาชาติ
ความคิดใหญ่ ๆ และสถานที่สำคัญ ๆ
ไม่น่าแปลกใจเลยที่พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทีย ซึ่งรวมถึง พื้นที่ใกล้เคียง สิ่งอำนวยความสะดวก จุดหมายปลายทาง และพื้นที่ทางโอกาสที่มีอยู่ จะกลายเป็นพื้นที่ศูนย์กลางที่รัฐบาลเขตดี.ซี.ใช้ดำเนินการประมูลครั้งสำคัญ ๆ เพื่อแข่งขันกับเมืองอื่น ๆ ทั่วโลกด้านการลงทุนและการเป็นที่ยอมรับ นับตั้งแต่การประมูลเพื่อเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนประจำปี ค.ศ. ๒๐๒๔ จนถึงการแข่งขันเพื่อเป็นสถานที่ก่อสร้างสำนักงานใหญ่แห่งที่สองของบริษัท แอมะซอน พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำของเขตดี.ซี.ก็เป็นศูนย์กลาง ของข้อเสนอและเป็นพื้นที่ที่กระตุ้นความสนใจสำหรับโอกาสเหล่านี้ พื้นที่สองในสี่แห่งที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เสนอให้เป็นสถานที่ก่อสร้างสำนักงานใหญ่แห่งที่สองของบริษัทแอมะซอนประกอบด้วยพื้นที่สองฝั่งของแม่น้ำ อนาคอสเทียบริเวณย่านธุรกิจ Capitol Riverfront ตลอดจนการปรับปรุงพื้นที่อนุรักษ์ ๑๓ ณ ย่าน Hill East
การคาดการณ์ความต้องการในอนาคต
พื้นที่ทางกายภาพบริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำอนาคอสเทียเป็นพื้นที่แห่งความคิดเชิงวิสัยทัศน์เพื่อจัดการกับโอกาสในอนาคตและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของเขตดี.ซี. ทรัพย์สินที่เป็นของสาธารณะบริเวณย่าน Hill East พื้นที่ Poplar Point และสนามกีฬาอนุสรณ์ Robert F. Kennedy โดยพื้นที่ขนาดใหญ่เหล่านี้อาจกำหนดให้ตอบสนองต่อความต้องการทางการตลาดในอนาคตและปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเพื่อบรรลุถึงอนาคตที่มีความเสมอภาคและมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้อยู่อาศัยในเขตดี.ซี. ทุกคน สถานที่ที่ยังคงอยู่นี้รวมกับการลงทุนของภาคเอกชนที่เริ่มดำเนินการแล้วอย่างบริเวณย่าน Buzzard Point, The Wharf, และอู่เรือ Navy Yard เป็นกำหนดแผนที่นำทางหรือกลยุทธ์ (Roadmap) ไปสู่พื้นที่ริมแม่น้ำที่ล้ำสมัยและมีความหลากหลาย พื้นที่ทางประวัติศาสตร์และที่สร้างขึ้นใหม่ในเมืองมิได้เป็นห้องทดลองด้านนวัตกรรมและการพัฒนาที่มีความทันสมัยอย่างยิ่งเสมอไป แต่แม่น้ำอนาคอสเทียเป็นเช่นนั้นได้
เขตดี.ซี.แห่งวันพรุ่งนี้
ไม่ว่าเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือการลงทุนที่พึงประสงค์ในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอนาคอสเทียพร้อมแล้วที่จะเป็นสถานที่ที่จะทำให้ความฝันเป็นความจริงในลักษณะของการให้บริการและเอื้อประโยชน์ต่อผู้อยู่อาศัยในเขตดี.ซี.ทุกคน ความพร้อมนี้เองเป็นสิ่งจำเป็นในการคงสถานะทางเศรษฐกิจที่สามารถแข่งขันได้ของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องของความเกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องและความเจริญรุ่งเรืองอย่างครอบคลุม
แหล่งข้อมูล
‘Resurgence of the Anacostia Waterfront: 15 Years of Progress Along the Anacostia River’ DC Government Website. <https://planning.dc.gov/awi15>
<https://planning.dc.gov/sites/default/files/dc/sites/op/publication/attachments/Anacostia%20Waterfront%2015%20Year%20Progress%20Report_web.pdf>
Best Practice
Resurgence of the Anacostia River
Washington, DC is a Waterfront City
At the confluence of two tidal rivers, the Potomac and Anacostia, the District of Columbia enjoys 47 miles of shoreline. With DC now fully embracing its revived identity as a waterfront city, this progress report celebrates the resurgence of the Anacostia River — the heart of the District’s reorientation to its waterfront.
The Anacostia River and its waterfront neighborhoods stand today in stark contrast to the challenges of 2003, underscoring a depth of commitment, stewardship, and investment. Fifteen years ago, the river had been compromised by pollution from untreated sewage overflows, trash, sedimentation, untreated stormwater, fertilizers, and more. The Anacostia’s banks had been artificially walled, preventing the growth of natural ecosystems that help keep rivers healthy and foster wildlife. While the river boasted miles of National Park Service parkland, it also contained a range of industrial uses like scrap yards, stone crushing facilities, utilities, and military installations. The shoreline was hard to reach or completely inaccessible from nearby communities. Most District residents did not approach the river, which had become a near-synonym for abandonment and urban decay. If the environmental restoration of the river seemed a pipe dream, the possibility of luring residential development to its banks seemed equally hard to imagine. Meanwhile, a complex ownership structure exists where the river itself (both water and riverbed) and the land along it are split between several federal and local agencies and private property owners. The river and its watershed are further shared with Prince George’s and Montgomery counties in Maryland. Despite these hurdles, sustained leadership, significant public, non–profit, and private investment, and community advocacy have enabled the Anacostia River to flourish.
Once a forgotten and polluted dividing line, the District’s eight-mile stretch of the Anacostia River and Washington Channel is now unlocking social, environmental, and economic benefits. This area weaves through Wards 5, 6, 7, and 8, and stretches from the Tidal Basin to the District’s northeast border with Maryland. The Anacostia waterfront has become more widely recognized and experienced with its new destinations, homes, job centers, environmental regeneration, and enhanced public access that have restored residents’ connections to the water.
In 2003, the Anacostia Waterfront Framework Plan set a visionary and ambitious agenda for the revitalization of the Anacostia waterfront as a world-class destination and the center of 21st century Washington, DC. On March 22, 2000, 19 federal and District agencies committed themselves to the unprecedented effort of restoring the Anacostia River, its waterfronts, and adjoining communities and parks through the Anacostia Waterfront Initiative (AWI). Led by then Mayor Anthony Williams, the AWI vision for the Anacostia included an ambitious set of goals. The DC Office of Planning, in collaboration with the AWI agencies and civic stakeholders, created the Anacostia Waterfront Framework Plan (AWI Plan) to implement the AWI vision and provide a roadmap for waterfront revitalization. The AWI Plan focused on 900 acres of land along the eight-mile long Anacostia waterfront and Washington Channel, 90 percent of which were publicly owned at the time. The AWI study area focused strongly on large public sites that could be leveraged for redevelopment. The AWI Plan envisioned the “transformation of upwards of 2,000 acres of a long-neglected and abused river corridor into a model of 21st century urban life – socially heterogeneous, culturally diverse, and environmentally and economically sustainable across future generations.”
The AWI Plan set in motion a transformation that includes new mixed-income neighborhoods, environmental restoration, transportation infrastructure, enhanced public access, new connected parks, and cultural destinations. The revitalization of the Anacostia waterfront is a shared success story of visionary planning, strategic public and private investment, and community partnership that has fueled one of the most exciting urban waterfront transformations in the United States. In 2018, at the 15-year anniversary of the AWI Plan, the turnaround of the Anacostia waterfront is a national model for urban rivers in terms of environmental restoration, public access, economic development, and inclusive growth.
A revitalized waterfront has always been about shared stewardship, and the constituencies are strong and growing. While the leadership of former Mayor Anthony Williams, Congresswoman Eleanor Holmes Norton, and other champions elevated the Anacostia River as a priority, a growing number of nonprofit organizations, community groups, and foundations have emerged in recent years with a focus on the Anacostia River’s environment and the community development of adjacent neighborhoods. Many of the District’s waterfront successes and progressive legislation are direct results of the hard work of so many dedicated community advocates and stewards of the river. This growing constituency will help to sustain community-based conservancy efforts into the future.
The Anacostia waterfront has grown and prospered as a collection of both new and well-established neighborhoods, planned as a key location to accommodate the city’s population growth around transit and waterfront amenities. The rise in waterfront development is the result of planning policy that has guided public investment and private development along the Anacostia River, especially on underutilized public land, large sites, and formerly industrial properties, capitalizing on the transit capacity along Metro’s Green, Blue, and Orange lines. The AWI Plan set a vision for accommodating growth along the waterfront in vibrant, sustainable neighborhoods that were to be connected to each other, other District neighborhoods, and the region. The Comprehensive Plan for the National Capital: District Elements[6] enshrined this vision through policies identifying the neighborhoods dotting the Anacostia waterfront as new or revitalized neighborhoods, including the Southwest Waterfront, Buzzard Point, Navy Yard, Hill East, and Poplar Point. This planned growth was aimed at bringing amenities and enhanced access to existing neighborhoods such as Historic Anacostia, Kenilworth, and Capitol Hill. Leveraging public properties at the Southwest Waterfront (The Wharf) and Navy Yard (Capitol Riverfront) has already catalyzed the creation of new residences, cultural destinations, recreational amenities, job centers, and restored access along the waterfront. The Navy Yard has emerged as the fastest-growing neighborhood in the city with an expected 13,000 residents by 2020.
By improving the Anacostia River’s water quality, the District has sought to achieve environmental healing and justice and promote water-dependent activities. Through a mix of legislative measures, restoration and remediation projects, and large-scale infrastructure like DC’s Clean Rivers Project, the District has experienced a radical environmental turnaround that is helping to make all other investments a success. A clean river is a necessary foundation for all water-related experiences and essential to the wellbeing of nearby residents and the health of wildlife habitat. The Anacostia River is well on its way to being swimmable and fishable by 2032 as envisioned in the AWI Plan. The next wave of environmental progress is about making the river and its waterfront communities more resilient to the impacts of climate change, including potential flooding, sea level rise,
and more frequent and intense precipitation.
-Anacostia Waterfront Initiative (AWI) Goals
These goals were originally established in 2003 The Anacostia Waterfront Framework Plan and provided the guiding principles for planning decisions:
- Promote sustainable and low-impact development in waterfront neighborhoods;
- Create a lively urban waterfront for an international capital city;
- Stimulate economic development in neighborhoods through job creation and commercial activity;
- Produce a coordinated plan for the waterfront that can be implemented over time;
- Engage all segments of the community as stewards of the river and its banks;
- Restore the Anacostia River's water quality and enhance its natural beauty;
- Address community concerns, including those of residents, property and business owners, and visitors;
- Develop a network of distinctive green parks, varied maritime activities, and unique public places;
- Promote excellence in design in all aspects of the endeavor;
- Connect neighborhoods along the river to each other and link surrounding communities directly to the water.
Investments in transportation infrastructure have helped deliver a connected waterfront, ensuring that the Anacostia River no longer divides our neighborhoods. State-of-the-art multimodal projects are enhancing mobility and public access to and along the waterfront like the planned Frederick Douglass Memorial Bridge, almost 20 miles of the Anacostia Riverwalk trail, new options like bikeshare, the DC Circulator bus, and streetcar, and improved roadway circulation that takes regional traffic off neighborhood streets. Restoration of streets and rebuilding the historic L’Enfant grid have helped to connect neighborhoods. This waterfront transportation network, which includes new water taxi service, is also essential for connecting District residents to jobs, schools, parks, and entertainment destinations.
The natural experiences and recreation along the Anacostia River are a fundamental ingredient for the continued livability of a growing city. A great deal of the shoreline remains parkland in District or federal ownership, including the federally-owned 1,200+ acres of Anacostia Park which celebrates its 100-year anniversary in 2018. The District has created a system of interconnected waterfront parks that establish widespread access to the river for recreation, from signature locations like Yards Park to improved facilities like Kenilworth Recreation Center, all joined by the Anacostia Riverwalk Trail. The Anacostia waterfront is a place where DC plays and rejuvenates; a place for everyone from local families to tourists; a place to discover nature in the city; and a place to find respite in recreation and river views. The District’s population has grown by over 125,000 residents since the 2003 AWI Plan and continues to grow by about 800 residents each month, and the Anacostia waterfront and its robust park system will help to balance growth and serve all District residents.
The Anacostia waterfront has emerged as a cultural center complementing the Mall with cultural venues, sports arenas, and museums that are enlivening its shores with millions of annual visitors and reinforcing our city’s unique cultural heritage. There are also new developments and neighborhoods that serve as destinations in themselves, such as The Wharf, that are changing the image of DC and its relationship with the water through unique public spaces and programming. From Nationals Park and Audi Field to new museums, music venues, future monuments, and the planned 11th Street Bridge Park, the Anacostia waterfront is adding to the cultural energy and dynamism of the District.
Most importantly, waterfront revitalization is about growing an inclusive city and delivering shared economic and social prosperity. As the AWI Plan envisioned, “the river will no longer be a widening social and economic boundary separating ‘east of the river’ from west”, but rather “…it will be a source of economic opportunity generating resources to spur revitalization and narrow the gap between wealth and poverty in neighborhoods along its shores.” Inclusive prosperity is about expanding access to opportunity and providing pathways to the middle class for District residents through the sustained growth of jobs, affordable housing, and tax revenue. New jobs, retail options, transportation improvements, and parks along the Anacostia River all seek to serve longstanding and new residents in waterfront communities as well as the city and region. While the Anacostia River’s renaissance has realized notable strides on inclusion, there is a need to ensure the next generation of waterfront projects purposely address equity.
Preserving the Heritage of the Anacostia River
The Anacostia has a rich story that spans from prehistory through industrialization, and a legacy that continues today. The District actively works to manage our historic structures, through research, designation, adaptive reuse, and archeological investigation. The following are some archeological and historic preservation highlights:
- Archeological surveys at Anacostia Park have uncovered evidence of prehistoric camp sites, regional transportation for Native Americans, industry, and historic African American neighborhoods. Nomination of Anacostia Park to the National Register is currently underway.
- Historically, Reservation 13 was a Native American settlement, and prehistoric stone tools in various stages of production were found there during an archeological survey, indicating that this was once a tool processing site. More recently, the site housed the Marine Hospital and Arsenal.
- An archaeological survey at the 11th Street Bridge site revealed a below-ground paved street dating to the 1860s.
- A number of historic structures are located in Capitol Riverfront, some of which have been adapted for reuse as part of redevelopment. The Lumber Shed Building is the site of new restaurants, and the Old Capitol Pumphouse is now an educational space for the Earth Conservation Corps.
- One of the oldest operating Naval facilities in the nation, the Washington Navy Yard is a Historic Site that is still active today. It employs approximately 16,000 peoples and is home to the U.S. Navy Museum.
- The Kingman Park Neighborhood was designated as a historic district in 2018.
Next Generation Approach
In celebration of the 15-year anniversary of the AWI Plan, this report highlights many of the collective accomplishments and frames future opportunities that the Anacostia waterfront holds for the District. This progress report looks beyond the AWI Plan’s original boundaries confined to publicly owned waterfront edges and includes adjacent communities along the waterfront. The report focuses on the following thematic areas which also correlate to the original chapters/themes of the AWI Plan:
Washington, DC has made great strides on the Anacostia waterfront, but there is still work to do. Large publicly controlled sites like RFK Stadium, Hill East, and Poplar Point are still in planning or early stages of redevelopment. Since the AWI Plan, the District has increasingly grown in its consciousness and commitment to the issue of equity as the pressure of significant population growth increases concerns around housing affordability and economic opportunity. Long a leader in sustainability, the District is now also working to advance policies and projects that support a more resilient city, which means adapting to climate change and flood risk in waterfront areas. There is also a growing understanding of how the waterfront can invite innovation and sustain the District’s competitive advantage on a world stage. Looking forward, the District is committed to focusing on equity and inclusive prosperity, next generation resilience, innovative design, and sustainable growth.
Top 15 AWI Accomplishments
- Connected Anacostia River Parks into an integrated open-space system with 1,800 Acres of parkland, including new signature parks like Yards Park and Canal Park.
- Completed nearly 20 miles of a continuous Anacostia Riverwalk Trail built along both banks of the Anacostia waterfront.
- Radically improved water quality and river health through wetland and stream restoration, regulations, and the $2.8 billion DC Clean Rivers Project.
- Attracted a diversity of government and private sector employers with 100,000 employees working in Anacostia waterfront neighborhoods.
- Spurred new housing development including 18,000+ additional housing units for Washington, DC, including 4,500+ new and preserved affordable housing units.
- Designed state-of-the-art multimodal bridges for 11th Street and the Frederick Douglass Bridge at South Capitol Street to better serve local residents.
- Delivered over 13 million square feet of commercial, retail, and service-oriented space along the waterfront.
- Fostered the Anacostia waterfront as a world-class cultural destination with Arena Stage, the Anacostia Arts Center, the International Spy Museum, The Anthem, the Anacostia Playhouse, Nationals Park, and Audi Field.
- Strengthened existing waterfront neighborhoods through public investment in infrastructure, schools, libraries, parks, and recreation centers.
- Transformed the SW Waterfront into The Wharf as a four-seasons regional Waterfront destination for residents and visitors with a mix of shops, restaurants, music venues, hotels, offices, homes, and public gathering spaces.
- General fund revenues of $287 million to the District in 2018 generated within the Capitol Riverfront Business Improvement District (BID), over three and a half times the amount generated before the BID was formed in 2007.
- Created signature park experiences such as Yards Park and Canal Park, with year-round programming that draws neighbors and visitors from throughout the region. Continued investment in waterfront neighborhood recreation centers.
- Clustered new housing and jobs around waterfront neighborhood Metrorail stations on the Green, Blue, Orange, and Silver Lines, reinforcing walkable, transit-friendly places.
- Redesigned streets to accommodate people and bikes, as well as vehicles, and the expansion of transit through the DC Circulator bus, shuttles, bikeshare, and in the future, streetcar.
- Established the District’s first state Conservation Area at Kingman Island and supported the reemergence of wildlife like the bald eagle at the Anacostia River.
2018: Year of the Anacostia
2018 is a big year for the Anacostia River in Washington, DC and Maryland. This momentous year comes at the 15-year anniversary of the AWI Plan.
The open space along the slow and gentle river was preserved as park land through an act of Congress on August 31, 1918 — 100 years ago. This year not only marks the centennial celebration of the legislation that preserved Anacostia Park but also the completion of DC Water’s Anacostia River Tunnel, which will substantially improve water quality.Meanwhile, the DC Department of Energy and Environment and the National Park Service will make the final decision on the most effective way to clean up the riverbed, and fans will celebrate the 89th Major League Baseball All-Star Game along the banks of the Anacostia.
These are just some of the milestones, anniversaries, projects, and events that together make 2018 a significant year. Known as the Year of the Anacostia, 2018 is a monumental opportunity to acknowledge history and look to the future: to continue to transform the Anacostia waterfront into a vibrant, healthy, and thriving civic space in the heart of the District. The Anacostia corridor, once a dividing line in the nation’s capital, will serve as a touchstone for ecological restoration, equitable economic growth, and a celebration of community strength and unity.
Anacostia Waterfront Timeline
Year
|
Activities
|
2000
|
Anacostia Waterfront Initiative
|
2002
|
Hill East Master Plan
|
2003
|
Anacostia Waterfront Framework Plan
|
2005
|
- Aquatic Resources Education Center opens
- Anacostia Waterfront Transportation Master Plan
|
2006
|
- DC Lands Act to transfer Poplar Point
- Anacostia Waterfront Transportation Architecture Design Guidelines
- Comprehensive Plan for the National Capital: District Elements
|
2008
|
- Nationals Park opens
- Anacostia 2032: Plan for Fishable and Swimmable Anacostia River
- Anacostia Waterfront Development Zone
- Comprehensive Stormwater Enhancement Amendment Act
|
2009
|
- Capitol Riverfront BID authorized
- Boathouse Row Planning Study
- Anacostia River Cleanup and Protection Act (DC Bag Law)
|
2010
|
- Kingman Island Bluegrass Festival celebrates first year
- Arena Stage renovated
- Anacostia River Watershed Restoration Plan and Report
|
2012
|
- 11th Street Bridge reconstruction completed
- Anacostia BID authorized
- Maryland Avenue Small Area Plan
- Anacostia River Watershed Implementation Plan (WIP)
|
2013
|
- Anacostia Arts Center opens
- Southwest Eco District
- Sustainable DC
|
2014
|
- Anacostia Waterfront Initiative Transportation Master Plan (2014 Update)
- Move DC
|
2015
|
- Southwest BID authorized
- Anacostia River Festival celebrates first year
- Southeast Boulevard Planning Study
- Southwest Neighborhood Small Area Plan
- Nonwoven Disposable Products Act
|
2016
|
- Anacostia Riverwalk connected to Maryland (19 miles completed)
- Climate Ready DC
- Fisheries and Wildlife Omnibus Amendment Act
|
2017
|
- Wharf Phase 1 opens
- Museum of the Bible opens
- Buzzard Point Vision Framework + Design Review Guide
- Anacostia Park Management Plan
- Kingman and Heritage Islands Park Feasibility Study
|
2018
|
- $4.7 million for Kingman Island
- Anacostia River Tunnel completed
- Audi Field opens
- MLB All-Star Game
- Fort McNair Master Plan
- Watts Branch Flood Risk Management Study
- RFK Stadium Master Plan
|
Planning & Policy Framework
The planning and policy guidance for the Anacostia Waterfront has been supplemented by many other plans since the Anacostia Waterfront Framework Plan (2003) including the Comprehensive Plan for the National Capital: District Elements, Sustainable DC, Climate Ready DC, and MoveDC, as well as area-focused planning for neighborhoods such as Southwest and Buzzard Point. This armature of plans and policies has tended to reinforce many of the themes and goals of the AWI Plan, and the District’s understanding of the waterfront and its challenges and opportunities continues to evolve.
15 Years of Progress
- Neighborhoods; building and sustaining strong waterfront neighborhoods;
- Environment; a clean and active river;
- Transportation; breaking down barriers and gaining access;
- Parks; a great waterfront park system;
- Destination; cultural destinations and places of distinct character.
Neighborhood
Washington, DC now enjoys a range of exciting urban waterfront communities in new and existing neighborhoods strengthened with investment and amenities. A growing number of residents live, work, play, and connect in transit-oriented waterfront neighborhoods, while an increasing number of visitors experience the waterfront for business, recreation, and entertainment.
A diversity of historic and emerging neighborhoods along the Anacostia River are enjoying the benefits of being adjacent the waterfront, strengthened by investment in schools, parks, libraries, and new retail, cultural spaces, and job centers.
AWI Goals for Neighborhoods
- Promote mixed-use waterfront neighborhoods with opportunities to live, work, and play.
- Invest in existing neighborhoods to ensure that current residents have improved services and amenities.
- Create the opportunity for more than 20,000 additional mixed-income households to live in waterfront neighborhoods.
- Revitalize existing commercial areas and connect these historic centers to new public amenities.
Absorbing a Growing Downtown
The Anacostia waterfront was intentionally planned as an extension of the city’s Central Business District to capture commercial and job growth beyond the existing downtown. The fastest-growing neighborhoods in the District are on the Anacostia waterfront, and much of this growth has been achieved through leveraging public land and large sites for new mixed-use, transit-oriented development. Land development along Capitol Riverfront, especially at Buzzard Point, is moving faster than anticipated. Commercial projects led the initial development surge at the waterfront, which has now shifted to increased residential construction.
Housing and Inclusive Neighborhoods
Anacostia waterfront neighborhoods are among the fastest growing in the District, expanding with new homes which include replacement and new affordable housing as well as housing for older adults. New infill development has also been a powerful engine for delivering additional amenities and services in existing neighborhoods.
A Waterfront that Works
More than 100,000 people now work along the waterfront for a diverse collection of government and private sector employers. Historic military facilities retain a strong employment presence at the Washington Navy Yard and Fort McNair. Waterfront locations are expected to continue to attract top talent and were featured prominently in the District’s proposal for Amazon’s HQ2. The District government is leading by example, locating thousands of government employees within waterfront neighborhoods in recent years near Metrorail, including at the Waterfront, Navy Yard, Anacostia, and Minnesota Avenue stations. These government offices occupy newly constructed public buildings or serve as anchor tenants in new commercial and mixed-use developments.
The Power of Parks
New and improved parks contribute to Anacostia waterfront neighborhoods in three powerful ways: adding economic value to new development through recreation and programming; ensuring the waterfront remains a family-friendly destination; and providing environmental resilience to mitigate flooding and the impacts of climate change. Canal Park, Yards Park, Diamond Teague Park, and the Wharf Park are linked to new developments, providing neighborhood amenities for existing and new waterfront residents, workers, and visitors. Longstanding federal park and open space assets, from Langston Golf Course to the National Arboretum and Anacostia Park, are experiencing reinvestment, including plans for stronger connections to adjacent communities. The District has led a sustained capital campaign to renovate existing recreation centers on both sides of the river, an important foundation for maintaining vibrant neighborhoods.
Riverfront Retail
Hundreds of new restaurants, bars, and cafes offer a range of dining experiences in waterfront neighborhoods. New retail will continue to bring enhanced shopping opportunities to waterfront neighborhoods, including at Park 7 (4058 Minnesota Avenue) and at Hill East as part of Phase 1 development.
Connected Neighborhoods
With new and improved public parks, additions to the Anacostia Riverwalk Trail system, reconstructed multi-modal bridges, more transit options, and a water taxi crossing the Washington Channel, the Anacostia waterfront is accessible and connected to adjacent neighborhoods.
Building Equity into our Neighborhoods
Housing. The preservation and creation of affordable housing is a citywide priority that, when applied to the Anacostia waterfront, is a key strategy to ensure a more equitable future for established and new neighborhoods. Since 2010, land owned or controlled by the District within the Anacostia Waterfront Development Zone is required to provide at least 30 percent affordable housing units to moderate- and low-income households. This emphasis on housing has catalyzed more than 4,500 new and replacement affordable units along the riverfront. Additionally, in 2019, the District will open a new short-term family housing program in Southwest to support families experiencing homelessness.
Food Access. Longtime and newer residents in areas such as Southwest and Capitol Riverfront have gained full-service grocery stores, community gardens, and other neighborhood amenities generated by public and private investment along the Anacostia waterfront.
Mobility. Neighborhoods along the Anacostia River have seen improved connections to and along the waterfront through a more complete street network with better bike and pedestrian access. In the future, waterfront neighborhoods will be better connected across the Anacostia River through improved roadways, the extended Benning Road Streetcar line, and bike-pedestrian connections. The highly anticipated Frederick Douglass Memorial Bridge Project, which broke ground in Winter of 2018, will facilitate multimodal transportation options across the river.
Recreation. The Anacostia waterfront has seen increased investment in public amenities in existing communities, especially east of the Anacostia River. In addition to improved and new playgrounds, parks, and recreational centers in waterfront neighborhoods, trail connections to and along the river from Kenilworth and South Capitol Street have opened access to one of the District’s greatest natural amenities.
Inclusive Prosperity. The development of new office space is bringing established companies and District and federal agencies to the Anacostia waterfront as well as incubating independent entrepreneurship and startup ventures. New development also brings construction employment opportunities. Phase I of The Wharf generated several hundred construction jobs, and 30 percent of apprenticeship opportunities were designated for District residents in Wards 7 and 8. The current construction of the Frederick Douglass Bridge also has substantial targets for training and employment of District residents.
Environment
Through a broad coalition of civic and government advocates, private and public investment, and progressive policymaking, the Anacostia River is experiencing an extraordinary environmental turnaround – one so dramatic to merit becoming a national best practice.
The environmental turn-around that the river has experienced in the last 15 years is the result of the work of countless government and non-governmental champions and the implementation of a myriad of interventions big and small. From the District’s Anacostia River Sediment Project to DC’s Clean River Project, from new greener and more sustainable construction along the river to increased conservation and restoration efforts of natural habitats, from clean up efforts and waste reduction to wildlife protection, many actions and many actors contributed together to making the Anacostia river swimmable, fishable and boatable for all.
AWI Goals for the Environment
- Provide a river suitable for swimming by 2032.
- Restore riparian function of the watershed in both urban and natural
- Implement green guidelines and standards to require sustainable development.
- Increase all type of maritime activity.
- Enhance environmental education on the river’s watershed.
River Restoration
A clean river is the foundation for the Anacostia River revitalization and makes all other objectives and investments in the waterfront possible. Once dubbed “DC’s forgotten river” because of heavy pollution and neglect of its banks, the Anacostia River is on its way to becoming fully fishable and swimmable. While photos from a decade ago show a river covered in floating trash, today, the Anacostia River is experiencing an environmental rebirth characterized by improved water quality, wildlife repopulation, and more accessible, natural shorelines. To transform the Anacostia River into a fishable and swimmable river, in 2014, the District launched a long-term project to address contaminated sediments called the “A Cleaner Anacostia River” project. This project is the most comprehensive approach to restoration in the river’s history, and the District allocated $45 million to support cleanup efforts.
Improved Water Quality
The restoration of five streams that flow into the Anacostia has diminished effluent pollution and debris that pollute the river’s waters. Legal requirements paved the way for the local water and sewer utility, DC Water, to initiate the biggest infrastructure project in the District since the building of the Metro system: the DC Clean Rivers Project, a $2.7 billion sewer tunnel system and greening program to decrease the amount of untreated sewage spills into the river by 98 percent. In addition to the ongoing remediation of several polluted sites, including at Kenilworth and Boathouse Row, the Anacostia River Sediment Project will lead to an enforceable clean-up strategy for the riverbed itself. The redevelopment of old and highly polluting industrial areas on the riverfront has stemmed industrial runoff. The District and its partners have also worked to reduce trash pollution in the river through trash traps installed on various tributaries, anti-littering education, illegal dumping enforcement programs, and volunteer clean-up events, preventing millions of pounds of trash from entering the Anacostia River each year. Lastly, the District’s stormwater regulations and incentive programs, like the Stormwater Retention Credit Purchase Agreement Program, are driving the installation of green infrastructure across the city to reduce pollution and erosion from stormwater runoff.
Health and Activity
Improved water quality is addressing long-time environmental justice concerns and creating a healthier environment for nearby communities. Residents have been coming back to the river to take advantage of its numerous recreational opportunities, including maritime activities like kayaking, boating, and recreational fishing.
DC Clean Rivers Project
The DC Clean Rivers Project is DC Water’s program to reduce combined sewer overflows (CSOs) into DC’s rivers. CSOs are highly polluting spills of raw sewage and stormwater into rivers caused by the inadequate treatment and storage capacity of urban sewer systems. Until the recent completion of the current sewer system, the District’s rivers and creeks experienced CSOs during rain events. The DC Clean Rivers Project has created a new 157-million-gallon tunnel system where CSOs can be stored and conveyed to the Blue Plains Advanced Wastewater Treatment Plant. The Anacostia River and Potomac River tunnel systems include more than 18 miles of tunnels, constructed more than 100 feet below the ground. The DC Clean Rivers Project will reduce CSOs annually by 96 percent throughout the system and by 98 percent for the Anacostia River alone. In addition, the project reduces the chance of flooding in the areas it serves and reduces nitrogen discharged to the Chesapeake Bay.
Kingman and Heritage Islands
The product of dredging the Anacostia River over 100 years ago, Kingman and Heritage Islands are now home to important and rare ecosystems, including tidal freshwater wetlands and swamp forests. Consequently, the islands boast more than 100 different species of birds, mammals, and other wildlife. For these reasons, in January 2018, the District designated portions of both islands as a State Conservation Area and the southern area of Kingman Island as a Critical Wildlife Area. The designation restricts the use of the islands to environmental, educational, and recreational purposes only. Furthermore, the District committed to investing $4.7 million to fund outdoor classrooms, bathrooms, and accessible routes and pathways for visitors to the islands. These improvements will mean greater use of the island by District residents and visitors, which in turn will help expand successful school and volunteer programs already in place. Kingman Island is already a popular destination for cultural programming like the annual Bluegrass Festival, which introduces more people to this unique natural asset in the middle of the Anacostia River.
Progressive Legislative Framework for Sustainability
Since 2003, a coalition of tireless civic and non-profit advocacy groups in cooperation with District government agencies and policymakers advanced legislative measures to significantly improve the Anacostia River’s environment. New legislation and agreements with adjoining jurisdictions that share the Anacostia Watershed have helped to reduce the number of plastic bags and polystyrene (foam) containers in the river, create sustainable funding for river cleanup and environmental education, provide guidance for wetlands creation, restoration, and conservation, and launch innovative funding mechanisms for green infrastructure projects that reduce stormwater runoff into Anacostia waterways. The adoption of exemplary site and building standards for green design and stormwater management have also helped stem the amount of organic and chemical pollution going into the river. Much of this work has been guided by the District’s bold sustainability vision encapsulated in the Sustainable DC Plan. More recently, the District developed the Climate Ready DC Plan to strengthen resilience to increased flooding and rising tides and other climate change impacts on the District.
Conservation as Parks and Destinations
In 2018, Kingman and Heritage Islands were designated as the District’s first State Conservation Areas. This act signaled a permanent and long-term commitment to conservation while also ensuring a park resource for surrounding communities, a unique space for environmental education, and a destination for events. On both islands, and along the Anacostia River and its shores, increased clean up and conservation efforts have stimulated the return of wildlife. Now, portions of the river are home to tidal freshwater wetlands, vernal pools, wildflower meadows, tidal swamp forests, and hundreds of species of birds, mammals, and other wildlife.
Environmental Education and Economic Development
Youth are the future stewards of a clean and healthy Anacostia River, and the river itself is a source of jobs for future generations. The District maintains its commitment to training and deploying District youth to clean and study the river, while encouraging its recreational use through youth education and engagement. Through the Green Zone Environmental Program’s Summer Youth and the Young Adults Watershed Protection Education and Job Training, District agencies have trained more than 1,000 young residents while cleaning the river, planting trees, and creating wetlands.
Transportation
Unprecedented public investment in transportation infrastructure for a 21st century city has stitched together Anacostia waterfront communities, restored public access to the waterfront, created a sustainable and connected waterfront transportation network, and enhanced mobility options for adjacent neighborhoods.
The District Government and private and non – profit partners have worked together to improve and create new recreational opportunities along the Anacostia waterfront. Now, a diversity of experiences along the waterfront provides residents and visitors opportunities to play and connect on land and water.
AWI Goals for Transportation
- Reconnect the city street grid to waterfront parks.
- Provide continuous pedestrian and bicycle access along the entire waterfront.
- Redesign highways and freeways to become less of a barrier between neighborhoods and waterfront parks.
- Redesign bridges across the Anacostia in the tradition of great civic architecture.
- Create great urban boulevards with mixed-uses, landscaping, and great civic spaces.
- Aggressively promote a modal shift to public transit.
Infrastructure Stitching Together East and West
In 2003, there was inadequate public access to the waterfront and the Anacostia River, itself a dividing line between communities, was cut off from neighborhoods by a regional highway system. Since then, the District has been replacing outdated and deteriorating facilities and reshaping transportation infrastructure along the waterfront into a network that improves public access for residents, commuters, and visitors while also improving the area’s environmental quality. By providing new options for walkers, cyclists, transit riders, and drivers, these projects are reconnecting communities on both sides to the river and to each other. Physically reconnecting neighborhoods to the east and west of the river ensures that more residents share in the benefits of revitalization, including greater access to economic opportunity.
Equitable Public Access to Waterfront
In the early 2000s, there were few convenient routes to the Anacostia waterfront, limited ability to travel along the river, and scarce amenities along its banks. As envisioned, people are now able to get to the waterfront using public transportation, beautiful new street connections, distinctive bridges, and the new and restored Anacostia River parks. Linking all activities along the waterfront, the nearly 20 miles of continuous Anacostia Riverwalk Trail has physically reconnected DC’s diverse waterfront neighborhoods on both sides of the river and transformed public access along the waterfront. Improved transportation linkages have expanded access to new and restored waterfront park amenities and provided connections between waterfront neighborhoods and the region. Improvements like the Parkside Pedestrian Bridge connect communities to the waterfront and each other, once isolated by highway infrastructure.
Expanded Public Transportation Options
The District has expanded public transportation options to waterfront communities with the addition of DC Circulator routes, streetcar, and bikeshare, as well as on streets rebuilt for better walking and biking. Development along the waterfront, especially on underutilized public land, large sites, and former industrial properties, has taken advantage of the proximity to Metro’s Green, Blue, Orange and Silver lines, creating nodes of activity at the stations. New developments like The Wharf also have recognized the opportunity to supplement public transit with privately-funded options like shuttle service to and from Metro stations and new water taxi service.
Connections that Serve Immediate Communities
The District has been working to move regional traffic off local roads in order to improve air quality and better serve waterfront neighborhoods, prioritizing more local access and more livable neighborhoods. The goal for the highways and freeways that frame the Anacostia River is to be less of a physical and visual barrier to the waterfront and adjacent neighborhoods. Initial planning and design work for the Southeast Boulevard reflects this effort and reimagines a highway as a local boulevard. The District is also replacing unattractive, aging, highway-like bridges designed for regional traffic that discourage walking and biking. The 11th Street Bridge project replaced two bridges built in the 1960s with three new bridges that separate local and freeway traffic, with wide sidewalks, vastly reducing the amount of regional traffic on the streets of Historic Anacostia.
Urban Boulevards and Sustainable Streetscapes
Many streets and boulevards that lead to the Anacostia River are being designed for all modes of transportation and to be neighborhood-serving. From M Street SW/SE to Kenilworth Avenue, the District has been studying how to make critical corridors more accessible, pedestrian friendly, and attractive. For example, South Capitol Street was a primary corridor in Major Pierre L’Enfant’s 1791 Plan of the City of Washington and was envisioned as one of the symbolic gateways to the city, but has lost the characteristics of this historic function. The South Capitol Street Corridor project is replacing the Frederick Douglass Memorial Bridge to create an iconic gateway while transforming the urban freeway into a 6-lane scenic boulevard with an enhanced streetscape. Restoring the L’Enfant street grid is being further accomplished through the reestablishment of 4th Street SW between M and “I” Streets at the Waterfront Metro. 4th Street SW is now a neighborhood-serving street supporting retail, office, and housing, and operates as a social space and community focal point.
Frederick Douglass Memorial Bridge
The new Frederick Douglass Memorial Bridge Project will unify the east and west sides of the Anacostia River through enhanced pedestrian and bicycle access and deliver civic architecture worthy of its eponymous symbol of freedom and unity. The new Frederick Douglas Memorial Bridge is part of the South Capitol Street Corridor Project, which will be completed in two phases and is the largest capital project the District has undertaken. For the $441 million first phase of the project, the District received special federal approval to require 51 percent of all new project-related jobs to be performed by District residents. Additionally, at least 13 percent of the total design contract and 22 percent of the construction contract must be subcontracted to certified Disadvantaged Business Enterprises, far outpacing goals on previous capital projects. To meet these targets, the project is offering workforce development, contracting, and employment opportunities, including on-the-job training opportunities for design staff, trades, and contractor staff.
Anacostia Riverwalk Trail
The Anacostia Riverwalk Trail serves as a backbone of the Anacostia waterfront, connecting residents, visitors, and communities to the river, one another, and numerous commercial, cultural, and recreational destinations. The Riverwalk Trail is a multipurpose path along the east and west banks of the Anacostia River, where 19.5 of the planned 28 miles are open and actively used. Beyond recreation, the trail offers a transportation alternative for commuters between the District and Prince George’s County in Maryland. The trail provides comfortable and scenic travel for pedestrians and bicyclists along the river to the Fish Market, Nationals Park, Historic Anacostia, RFK Stadium, the National Arboretum, and numerous DC communities between the Tidal Basin and Maryland border. The trail itself has become a tourist attraction, while linking outdoor destinations along the waterfront like Yards Park, Diamond Teague Park, Anacostia Park, and the Kenilworth Aquatic Gardens. The picturesque four-mile Kenilworth Aquatic Gardens segment of the trail, completed in 2016, extends from Benning Road NE to the Blandenberg Trail in Maryland, filling in a mission link in a Regional 40+trail mile system within the watershed.
Parks
With 1,660 acres of parkland and open space, the Anacostia waterfront now features a large, varied network of parks and compelling recreation experiences that are expanding residents’ access to the water and nature and fostering local stewardship.
The District Government and private non – profit partners have worked together to improve and create new recreational opportunities along the Anacostia waterfront. Now, a diversity of experiences along the waterfront provides residents and visitors opportunities to play and connect on land and water.
AWI Goals for Parks
- Enhance underutilized parkland along the river to become important public amenities.
- Improve circulation to and between waterfront open spaces in order to create an interconnected park system.
- Ensure continuous access along the waterfront for pedestrians and bicyclists.
- Increase recreational opportunities along the waterfront parks system.
- Create distinct park destinations at the neighborhood, regional, and national scales.
New Signature Parks and Enhanced Neighborhood Facilities
The Anacostia waterfront has joined the Potomac waterfront, the National Mall, and Rock Creek Park as one of the District’s premier recreational and open space networks, and continues to draw residents and visitors from around the region. Since the implementation of the AWI, public and private investment has activated both local and federal recreational lands along the Anacostia waterfront. Construction of new parks has brought the total area of public park land to nearly 1,700 acres in the AWI impact area, while 23 facilities have been newly developed or renovated in the study area, including two new recreational centers, 11 playgrounds, two new pools, and two boxing rings. District and federal agencies have worked diligently, together and with private and nonprofit organizations, to improve, program, and provide access to high-quality recreational space throughout the AWI impact area. As a result, the Anacostia waterfront has seen a significant increase in recreational activity both on land and water.
Park Access and Connections
New recreational and transportation facilities unlock access to recreational opportunities along the Anacostia River. The Anacostia Riverwalk Trail is now a nearly complete network that connects the river, existing parks, and other green amenities to each other and to waterfront neighborhoods. One of several new segments of the trail, the Anacostia Riverwalk Trail Pedestrian Bridge, is currently underway and will soon connect pedestrians and bikers between the National Arboretum and Kenilworth Gardens. Improved wayfinding, cohesive signage, and path and lighting improvements guide visitors to and through new and existing parks and trails, making these great amenities more navigable and accessible. As new green spaces such as Yards Park and Wharf Park are located in neighborhood centers, recreational spaces are more accessible by foot, transit, and even boat - water taxis that carry visitors to and from East Potomac Park.
A Diversity of Experiences
Residents and visitors are fishing, boating, and kayaking on the Anacostia River, and as efforts to clean up the Anacostia River achieve better water quality, the District remains on target to make swimming possible by 2032. On land, the Anacostia Riverwalk Trail and recreational facilities are frequently used for transport and exercise, while Kingman Park has become a popular location for bird-watching and educational programs. Parks along the Anacostia River come alive year-round with festivals, like the annual Bluegrass and Folk Festival at Kingman Island Park and the Anacostia River Festival at Anacostia Park. Yards Park and Canal Park offer an urban park experience, and are regularly activated with seasonal activities and fitness classes.
Stewardship and Programming
Many hands are needed to ensure the safety, maintenance, and continued appreciation of the District’s waterfront parks. These partners include the District of Columbia, National Park Service (NPS), local business improvement districts (BIDs), numerous community associations, and nonprofit organizations. The Southwest BID and the Capital Riverfront BID employ 17 and 18 staff members, respectively, to ensure that parks within their boundaries are safe and clean. The Anacostia River Trail Rangers Program, a partnership between NPS and the Washington Area Bicyclists Association, provides youth an opportunity to interact with the Anacostia River Trail through educational programs and community service, while organizations such as the Anacostia Community Boathouse Association continue to educate the public about riverfront culture while providing affordable recreational opportunities.
Anacostia Park
At its 100th year anniversary in 2018, Anacostia Park is revived as a center for recreation with increased advocacy, planning, and investment. As part of this effort, NPS has ramped up park planning efforts through the Anacostia Park Management Plan and Environmental Assessment, a comprehensive framework document that will guide long-term park development and programming. NPS has identified capital improvement for Anacostia Park, especially in the Central Park segment, that will protect the park’s ecosystem and provide spaces for play and culture for the District and beyond. The Anacostia Park and Community Collaborative (APACC), which includes organizations like the Anacostia Waterfront Trust, DC Appleseed, and the Anacostia BID, has also catalyzed community support to improve Anacostia Park, the river corridor, and adjacent neighborhoods in Wards 7 and 8. Turning advocacy into action, the Building Bridges Across the River organization is leading the development of the 11th Street Bridge Park project and corresponding equitable development efforts. In addition to creating an exciting and iconic future park experience, the 11th Street Bridge Park will also reconnect neighborhoods on both sides of the river and provide improved access to Anacostia Park from Capitol Riverfront and Capitol Hill.
Destinations
New sports arenas, arts and performance venues, parks, and museums are introducing the Anacostia Waterfront to residents from the District, the region, and beyond.
New and improved cultural, sports, and entertainment venues on the Anacostia waterfront have joined a network of renewed parks and public spaces to attract District residents and visitors from near and far. More destination projects are in the works to support growing and revitalizing neighborhoods and job centers along the waterfront.
AWI Goals for Destinations
- Construct memorable shorelines that appropriately relate to each basin.
- Highlight the unique character of the river heritage and basins, including natural and urban elements.
- Make the Anacostia a regional destination for special events, such as concerts and sporting events.
- Create park destinations for public concerts, picnics, and local neighborhood festivals.
- Seek to find locations along the waterfront that enhance and reinforce existing assets as emerging cultural institutions begin to look for sites beyond the National Mall.
A Waterfront for DC Culture and Music
A diversity of musical and cultural celebrations is bringing new and expanding groups of visitors to the Anacostia waterfront. New and improved cultural spaces and musical venues like Arena Stage, the Anacostia Arts Center, The Anthem, and the Pearl Street Warehouse, as well as the many waterfront parks and public spaces, have made the Anacostia waterfront an entertainment destination.
Neighborhoods as Destinations
DC’s waterfront neighborhoods are becoming destinations themselves, with clusters of activity enlivening the area day and night. Anacostia waterfront neighborhoods like Historic Anacostia, Capitol Riverfront, and the Nascent Wharf offer a diversity of urban experiences along the Anacostia River.
Host to Major Events
The Anacostia waterfront hosts major events, including the Pope’s visit in 2009 and the Major League Baseball All-Star Game in July 2018. The Kingman Island Bluegrass Festival has grown in popularity and regional significance since kicking off in 2010, introducing thousands of visitors to the Anacostia’s natural splendor. The DC Jazz Festival has had a presence on the Anacostia River since 2015 at Yards Park, and this year at The Wharf. Since 2016, the Grace Jamaican Jerk Festival brings the flavors and sounds of the Caribbean to the Anacostia’s banks at RFK Stadium. Begun as the 11th Street Bridge Festival in 2013, the Anacostia River Festival has connected communities from both sides of the Anacostia River. Now in its fifth year, the Anacostia River Festival is jointly run by Building Bridges Across the Anacostia, the 11th St Bridge Park and National Park Service and has grown to attract 10,000 participants. The Anacostia River Festival is the bookend event to the National Cherry Blossom Festival, bringing DC’s premier annual celebration to Anacostia Park.
A Noted Destination for Visitors
Visitors from around the country and world can stay at new hotels on the Anacostia waterfront. In 2017, articles in Travel+ Leisure (“The 50 Best Places to Travel in 2018”) and Money Magazine (“The 10 Coolest Neighborhoods in America Right Now”) have highlighted the cultural attractions, restaurants, and public spaces on the Anacostia waterfront as key reasons to visit Washington, DC.
Meet You at the Anacostia River
The Anacostia River itself is now a destination for residents of and visitors to Washington, DC to experience through boating, active recreation, educational programs, festivals, and wildlife-watching. Whether on a boat tour led by the Anacostia Riverkeeper, meeting an Osprey with the Earth Conservation Corps, learning to fish at the Aquatic Education Resource Center, or canoeing the shallows of Kingman and Heritage Islands, thousands of long-time and newer District residents have experienced being on the Anacostia River for the first time in recent years. Thousands more have enjoyed the regional events such as the Bluegrass Festival, DC Jazz Festival, and Anacostia River Festival along the Anacostia’s banks, while new piers and sections of Anacostia Riverwalk Trail provide more casual and personal interactions with the water. A cleaner, more active, and inviting Anacostia River is being rediscovered as a central piece of the District’s civic identity and is bridging District neighborhoods east, west, north, and south.
Conclusion
Testing Ground for Innovation
The Anacostia waterfront and its neighborhoods provide an unparalleled canvas for the District’s imagination, where a creative and innovative palette of future possibilities can flourish. This is the place to pilot new technologies, reach unprecedented sustainability and resilience, capture inclusive economic growth, and attract the most sought-after talent and investment. The waterfront can and will be a testing ground for innovation and the District’s aspirations, demonstrating the type of leadership that garners national and international attention.
Big Ideas and Key Sites
It is no surprise that the Anacostia waterfront–its neighborhoods, amenities, destinations, and remaining opportunity sites–have been central to the District government’s prominent bids to compete with other world cities for investment and recognition. From the 2024 Summer Olympics bid to Amazon’s HQ2 competition, DC’s waterfront has been central in proposals and a compelling setting for siting these opportunities. Two of the four sites in DC’s proposal for hosting Amazon’s second headquarters include properties on both sides of the Anacostia River at Capitol Riverfront and Poplar Point as well as the redevelopment of the Reservation 13 campus at Hill East.
Anticipating Future Needs
The physical space along the Anacostia waterfront provides the canvas for visionary thinking to address future opportunities and the changing needs of the District. Publicly-owned properties at Hill East, Poplar Point, and RFK, these large-scale sites can be reimagined to meet future market demand and adapt to technological change to achieve a more equitable and resilient future for all DC residents. These remaining sites coupled with significant private investment already afoot at Buzzard Point, The Wharf, and Navy Yard provide a roadmap for a diverse, cutting edge waterfront. Historic and built out portions of the city do not always lend themselves to serve as laboratories for innovation and state-of-the-art development, but the Anacostia waterfront beckons it.
DC of Tomorrow
Whatever the technology, innovation, or desired investment that lies ahead, the Anacostia waterfront will be a ready platform to make the dream a reality in a way that serves and benefits all District residents. This readiness is essential for sustaining the competitive economic position of Washington, DC and ensuring continued relevancy and inclusive prosperity.
Source:
‘Resurgence of the Anacostia Waterfront: 15 Years of Progress Along the Anacostia River’ DC Government Website. <https://planning.dc.gov/awi15>
<https://planning.dc.gov/sites/default/files/dc/sites/op/publication/attachments/Anacostia%20Waterfront%2015%20Year%20Progress%20Report_web.pdf>
Capitol Hill คือ เนินแคปพิตอล เป็นเนินที่เป็นที่ตั้งของอาคารรัฐสภาสหรัฐอเมริกา (the United States Capitol หรือเรียกสั้น ๆ ว่า the Capitol) ซึ่งทำให้ Capitol Hill เป็นชื่อเล่นของรัฐสภาสหรัฐอเมริกาด้วย นอกจากนั้นแล้ว Capitol Hill ยังเป็นย่านที่อยู่อาศัยรอบ ๆ ของ Capitol Hill ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงวอชิงตันดี.ซี.
วอชิงตัน ดี.ซี. เป็นเมืองที่ได้วางแผนการก่อสร้างไว้ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๓๔ โดยประธานาธิบดี จอร์จ วอชิงตัน ได้มอบหมายให้ Charles L'Enfant ซึ่งเป็นสถาปนิกและนักวางผังเมืองชาวฝรั่งเศส ทำการออกแบบเมืองหลวงแห่งใหม่ โดยผังเมืองกำหนดให้สถานเกือบทุกสายถูกวางไว้ในรูปแบบตารางหรือกริด (grid)
เป็นองค์กรการฟื้นฟูด้านสิ่งแวดล้อมและพัฒนาเยาวชนตั้งอยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
เอกสาร Resurgence of the Anacostia Waterfront: 15 Years of Progress Along the Anacostia River ได้มีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 2019
District of Columbia Water and Sewer Authority (หรือ DC Water) เป็นหน่วยงานให้บริการน้ำดื่ม การจัดเก็บและบำบัดน้ำเสียในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
เอกสารแนบ : Best Practices - Washington DC - การฟื้นฟูแม่น้ำอนาคอสเทีย (พงศ์นรินทร์).pdf